About

ขับเคลื่อนโดย Blogger.

วันศุกร์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

"มิตซูบิชิ"ส่ง"แอททราจ"อีโคคาร์ 4 ประตูเสริมทัพ ก.ค.นี้



"มิตซูบิชิ" เทอีก 1,000 ล้านบาท เพิ่มไลน์ผลิต 5 หมื่นคัน พร้อมส่งอีโคคาร์ 4 ประตู ใช้ชื่อ "แอททราจ" ทำตลาด ลั่นรถถึงมือลูกค้าภายในเดือนกรกฎาคมนี้ คาดเสียงตอบรับดีแน่ เชื่อปีนี้ขายทะลุ 1.2 เเสนคัน ครองมาร์เก็ตเเชร์ 10%
นายโนบุยูกิ มูราฮาชิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ในเดือนกรกฎาคมที่จะถึงนี้ บริษัทมีแผนเปิดตัวรถยนต์นั่งประหยัดพลังงานมาตรฐานสากลภายใต้โครงการ "มิตซูบิชิ โกลบอล สมอลล์" หรืออีโคคาร์ 4 ประตู ใช้ชื่อว่า "แอททราจ" ออกสู่ตลาดอีกหนึ่งรุ่น หลังจากประสบความสำเร็จกับมิตซูบิชิ มิราจ ในช่วงที่ผ่านมา

นายมูราฮาชิกล่าวอีกว่า บริษัทได้ใช้งบประมาณมูลค่า 1,000 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตและเพิ่มกำลังการผลิตอีก 50,000 คัน สำหรับโรงงานผลิตรถยนต์แห่งที่ 3 จากเดิมที่มีกำลังผลิต 1.5 แสนคัน สำหรับมิตซูบิชิ มิราจ และเพิ่มอีก 50,000 คัน สำหรับมิตซูบิชิ แอททราจ โดยกำลังผลิต 200,000 คัน ในส่วนโรงงานแห่งที่ 3 นี้ยังสามารถปรับสัดส่วนการผลิตระหว่างรถทั้ง 2 รุ่น เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดได้

การเปิดตัวในเดือนกรกฎาคม นั้น บริษัทเตรียมพร้อมที่จะส่งมอบรถให้กับลูกค้าได้ทันที โดยเบื้องต้นจะเป็นการผลิตเพื่อรองรับกับความต้องการภายในประเทศก่อน จากนั้นค่อยส่งออกต่างประเทศ

สำหรับชื่อ "แอททราจ (ATTRAGE)" มาจากคำภาษาอังกฤษว่า Attractive สื่อถึงความมีเสน่ห์ ดึงดูดใจ เพื่อสะท้อนให้เห็นว่า "แอททราจ" เป็นรถยนต์นั่งที่จะสามารถดึงดูดใจผู้ใช้รถกลุ่มต่าง ๆ จากคุณสมบัติหลัก 3 ประการ คือ ประหยัดน้ำมันสูงสุด คล่องตัวในการขับขี่ และห้องโดยสารที่กว้างขวางสะดวกสบายได้รับการออกแบบตัวถังตามหลักอากาศ พลศาสตร์ และการเพิ่มประสิทธิภาพของโครงสร้างตัวถังจากโครงสร้างเหล็กความแข็งแรงสูง ซึ่งมีน้ำหนักเบาแต่ให้ความแข็งแกร่งสูงกว่าเหล็กทั่วไป จึงทำให้มีอัตราการบริโภคน้ำมันสูงสุดถึง 22 กิโลเมตรต่อลิตร อีกทั้งยังให้ความคล่องตัวในการขับขี่จากรัศมีวงเลี้ยวที่แคบสุดเพียง 4.8 เมตร นอกจากนี้ยังได้รับการออกแบบให้มีห้องโดยสารที่กว้างขวางสะดวกสบายด้วยห้อง โดยสารที่สูงกว่ารถในระดับเดียวกันพร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน

ทั้ง นี้บริษัทมั่นใจว่า มิตซูบิชิ แอททราจ จะเป็นรถอีกหนึ่งรุ่นที่ช่วยขับเคลื่อนให้มิตซูบิชิเดินไปสู่เป้าหมายยอดขาย ที่ระดับ 120,000 คัน หรือมีส่วนแบ่งทางการตลาดที่ 10% ขณะที่ตลาดรถยนต์โดยรวมคาดว่าจะมียอดขายอยู่ระดับ 1.2 ล้านคัน ลดลงจากปีก่อนหน้าเล็กน้อย โดยในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา ยอดขายโดยรวมอยู่ที่ระดับ 500,000 กว่าคัน และมิตซูบิชิมีส่วนแบ่งทางการตลาด 8.4% ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างน่าพอใจ และเชื่อว่าช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ น่าจะยอดขายเฉลี่ยเดือนละ 100,000 คัน

"ยอดขายช่วงที่ผ่านมาอาจจะมี ตัวเลขที่ลดลงเมื่อเทียบกับปีที่เเล้ว ที่ได้รับแรงกระตุ้นจากโครงการรถยนต์คันแรก แต่ตลาดก็ไม่ได้ลดลงไปจนน่ากลัว บวกกับสถานการณ์ค่าเงิน และภาวะเศรษฐกิจเองอาจจะทำให้คนเริ่มระวังในการใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น แต่ไม่ได้หมายความว่าคนไม่มีเงินซื้อรถแต่อย่างใด ขณะนี้มิตซูบิชิยังมีสต๊อกอยู่ 1.5 เดือน ขณะที่แบ็กออร์เดอร์จากลูกค้าในโครงการรถคันแรกนั้นยังมี 2 เดือน และคาดว่าในเร็ว ๆ นี้จะเข้าสู่สภาวะปกติ"

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น