About

ขับเคลื่อนโดย Blogger.

วันพุธที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2556

มิตซูบิชิ ส่งโฆษณาไทรทัน ชุดใหม่ "ใช้ชีวิตให้สุดกับมิตซูบิชิ ไทรทัน" ตามแบบฉบับ 'ตูน บอดี้สแลม



นับตั้งแต่เปิดตัวรถยนต์ มิตซูบิชิ ไทรทัน เครื่องยนต์ใหม่ 2.5 วีจีเทอร์โบ ที่มีความโดดเด่นทั้งในเรื่องของสมรรถนะจากเครื่องยนต์ใหม่ที่ให้พละกำลัง สูงสุดถึง 178 แรงม้า รูปลักษณ์ที่แข็งแกร่งและบึกบึนขึ้น รวมไปถึงประโยชน์ใช้สอยที่เพิ่มขึ้น มาเขย่าวงการรถกระบะในเมืองไทย เพื่อให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันและ เพื่อการพาณิชย์ได้อย่างลงตัว พร้อมแนะนำ อาทิวราห์ คงมาลัย หรือ ตูน-บอดี้สแลม ในฐานะพรีเซ็นเตอร์มาร่วมถ่ายทอดความโดดเด่นของตัวรถผ่านสื่อต่างๆ จนสร้างกระแสคนรักตูน-คนรักไทรทันไปแล้วนั้น ล่าสุด บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ได้ส่งภาพยนต์โฆษณาชุดใหม่มาเอาใจคนรักตูนและไทรทันอีกระลอกในชื่อชุด "Live Life to the Max ใช้ชีวิตให้สุดกับมิตซูบิชิ ไทรทัน" โดยเน้นคุณสมบัติเด่นของ มิตซูบิชิ ไทรทัน ที่สุดของรถกระบะสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นสมรรถนะจากเครื่องยนต์ 2.5 VG เทอร์โบ ที่ให้พละกำลังสูงสุดถึง 178 แรงม้า สะดวกสบายด้วยห้องโดยสารที่กว้างพร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกและความบันเทิง ครบครัน รวมไปถึงช่วงล่างปึ๊กแกร่งเต็มประสิทธิภาพที่มาพร้อมระบบความปลอดภัยครบ และคล่องตัวในการขับขี่ด้วยรัศมีวงเลี้ยวแคบสุดเพียง 5.7 เมตร รองรับทุกการใช้งาน ตอบสนองทุกเส้นทางและงานบรรทุก โดยเป็นการถ่ายทอดผ่านการใช้ชีวิตแบบสุดๆ เต็มที่ในทุกด้านของตูนไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการทำงานและการใช้ชีวิตทั้ง ในฐานะนักร้อง นายแบบ และนักกีฬา 


"ผมชอบเนื้อหาและการถ่าย ภาพยนตร์โฆษณาครั้งนี้มากเพราะเป็นเหมือนการถ่ายทอดประสบการณ์ของตัวเอง ปกติผมเป็นคนที่ทำอะไรแล้วต้องทำให้เต็มที่สุดกำลัง เพราะผมเชื่อว่าถ้าเราทุ่มเททำอะไรแล้วผลลัพธ์ที่ออกมามักจะดีเสมอ ผมจึงอยากเห็นทุกคนเต็มที่กับการใช้ชีวิตเหมือนผม เพราะชีวิตต้องใช้ให้คุ้ม ผมจึงต้องไปให้สุดทุกด้าน" ตูนกล่าว
หากใครอยากรู้ว่าหนุ่มตูนจะใช้ชีวิตได้สุดอย่างไร ติดตามดูได้ในโฆษณาชุดใหม่ของมิตซูบิชิ ไทรทัน ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
ข้อเสนอพิเศษ สำหรับผู้ที่ซื้อรถยนต์มิตซูบิชิ ไทรทัน
จองรถวันนี้ลุ้นเที่ยวญี่ปุ่นฟรี 5 วัน
สำหรับผู้ที่ซื้อรถยนต์มิตซูบิชิ ไทรทัน ทุกรุ่น มีสิทธิ์ลุ้นรับแพคเกจทัวร์ประเทศญี่ปุ่น "Hi Japan" รวม 150 รางวัล มูลค่ารวม 15 ล้านบาท โดยมีรายละเอียดดังนี้
เงื่อนไขการเข้าร่วมกิจกรรม สำหรับลูกค้าที่จองรถตั้งแต่วันที่ 11 มิถุนายน 2556 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2556 และได้รับรถภายใน 60 วันนับตั้งแต่วันจอง
รายละเอียดรางวัล แพคเกจทัวร์ประเทศญี่ปุ่น 5 วัน 3 คืน รวมทั้งสิ้น 150 รางวัล
(รางวัลละ 2 ที่นั่ง)
การจับรางวัล วันที่ 14 ตุลาคม 2556
การประกาศรางวัล วันที่ 28 ตุลาคม 2556

ซูบารุฉลองครบรอบ 55 ปีลดกว่า 5 แสนบาท


บริษัท ทีซี ซูบารุ (ประเทศไทย) จำกัดในฐานะผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ซูบารุอย่างเป็นทางการ ได้จัดแคมเปญพิเศษฉลองครบรอบ 55 ปีให้กับลูกค้าที่สั่งจองรถSubaru Legacy GT เครื่องยนต์ Boxer Turbo 265 แรงม้า เฉพาะภายในงานบางกอกอินเตอร์เนชันแนล ออโต ชาลอน 2013 โดยรับข้อเสนอพิเศษสุด มูลค่า 550,000 บาท ซึ่งสิทธิพิเศษดังกล่าวมีจำนวนจำกัดเพียง 5 คันเท่านั้น นอกจากนี้ภายในงานดังกล่าวซูบารุยังขนทัพรถแต่งขอแท้จากโรงงานมาร่วมแสดงอีก 2 รุ่น ได้แก่ Subaru XVรถครอสส์โอเวอร์เจเนอเรชันใหม่พร้อมชุดแต่งพิเศษจากซูบารุที่จะมาเปิดตัว เป็นครั้งแรกในเมืองไทย และSubaruImprezaSTI ตัวแรงจากภาพยนตร์เรื่อง Fast & Furiousสำหรับงานบางกอกอินเตอร์เนชันแนล ออโต ชาลอน 2013 จัดขึ้นที่อาคารชาเลนเจอร์ ฮฮลล์ 2 - 3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 20 - 30 มิถุนายน 2556 โดยซูบารุจัดแสดงที่บูท C10

วันอาทิตย์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2556

มาสด้าเอาใจสาวกสายพันธุ์สปอร์ตยกขบวนรถแต่งพิเศษ เปิดตัวมาสด้า บีที-50 โปร รุ่นพิเศษ ลุยงานออโต้ซาลอน



บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เตรียมยกเอายานยนต์สายพันธุ์สปอร์ตที่ตกแต่งพิเศษด้วยความใส่ใจและพิถีพิถัน เน้นความเป็นสปอร์ตดุดันรอบคัน มาพร้อมชุดแต่งของแท้จากโรงงานเอาใจสาวกสายพันธุ์สปอร์ต ทั้งมาสด้า2 มาสด้า3 และสปอร์ตโรดสเตอร์ มาสด้า เอ็มเอ็กซ์-5 พร้อมเปิดตัวอย่างเป็นทางการของรถปิกอัพสไตล์เก๋ง รุ่นลิมิเต็ด อิดิชั่น มาสด้า บีที-50 โปร รุ่นพิเศษ "PRO SERIES" ที่พร้อมอวดโฉมและสามารถเป็นเจ้าของได้ ในงานออโต้ ซาลอน 2013 ตั้งแต่วันที่ 20 มิถุนายน ถึงวันที่ 30 มิถุนายนศกนี้เท่านั้น 


นายโชอิชิ ยูกิ กรรการผู้จัดการ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ความเป็นสปอร์ตของรถยนต์มาสด้าถูกถ่ายทอดผ่านทาง DNA ของมาสด้าที่ส่งผ่านจากรุ่นสู่รุ่น โดยเฉพาะการเปิดตัวรุ่นพิเศษ หรือ ลิมิเต็ด อิดิชั่น ที่สร้างความฮือฮามาแล้วหลากหลายรุ่น ทั้งมาสด้า2 ลิมิเต็ด อิดิชัน และมาสด้า3 S+ โดยล่าสุดตอกย้ำความเป็นสปอร์ตให้กับรถสปอร์ตปิกอัพสไตล์เก๋ง มาสด้า บีที-50 โปร ภายใต้ชื่อ "PRO SERIES" ซึ่งถือเป็นผู้บุกเบิกความล้ำสมัยให้กับลูกค้ารถปิกอัพของประเทศไทย โดยเฉพาะอุปกรณ์ที่นำมาเสริมความเป็นสปอร์ตนั้นล้วนมีเอกลักษณ์เฉพาะ และมีสไตล์ที่ชัดเจน ควบคู่ไปกับการใช้งานในทุกรูปแบบ ซึ่งการตกแต่งพิเศษในครั้งนี้ถือเป็นการพลิกโฉมหน้าวงการปิกอัพของประเทศไทย ด้วยอุปกรณ์ตกแต่งเสริมความเป็นสปอร์ตรอบคัน ด้วยจำนวนจำกัดเพียง 1,000 คัน ราคาจำหน่ายเพียง 810,000 บาท สำหรับสีขาว รุ่นดับเบิ้ลแคบ 4 ประตู ขับเคลื่อน 2 ล้อแบบยกสูง Hi-Racer เครื่องยนต์ Di-THUNDER PRO 2200 ซีซี. เกียร์ธรรมดา 6 สปีด และราคาจำหน่าย 817,000 สำหรับสีดำและสีน้ำเงินใหม่ ออโรร่า บลู
นางสาวสุรีทิพย์ ละอองทอง โฉมทองดี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด กล่าวว่า สำหรับงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล ออโต้ ซาลอน ในปีนี้ถือเป็นการจัดงานเป็นปีที่สองติดต่อกัน หลังจากประสบความสำเร็จอย่างสูงเมื่อปีที่ผ่านมา สำหรับมาสด้าต้องการสื่อสารในเรื่องของความสปอร์ตและอารมณ์บุคลิกของรถมาส ด้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีความสวยงามโดดเด่น มาพร้อมสมรรถนะอันเป็นเลิศ ด้วยการส่งผ่านไปสู่รถยนต์ที่มีจำหน่ายอยู่ในตลาด รวมทั้งรถยนต์ที่ได้รับการตกแต่งขึ้นเป็นพิเศษ ซึ่งรถยนต์มาสด้าได้รับการกล่าวขานถึงความสวยงามเน้นความเป็นสปอร์ต โดยเฉพาะมาสด้า เอ็มเอ็กซ์-5 ซึ่งถือเป็นไอคอนหรือเป็นตำนานของตระกูลสายพันธุ์สปอร์ตของมาสด้า ที่สำคัญภายในงานนี้มาสด้านำเอารถยนต์ที่ตกแต่งขึ้นเป็นพิเศษเฉพาะรวมทั้ง รุ่นลิมิเต็ด อิดิชั่น นำมาจัดแสดงถึง 8 คัน พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ลูกค้าสามารถจับจองเป็นเจ้าของ พร้อมทั้งนำเอาอุปกรณ์สำหรับการตกแต่งพิเศษมาให้ลูกค้าได้สัมผัสอย่างหลาก หลาย
รถสปอร์ตปิกอัพมาสด้า บีที-50 โปร รุ่น PRO SERIES
ด้วยแรงบันดาลใจจาก DNA ของรถยนต์มาสด้ายุคใหม่ เฉกเช่นเดียวกับ "THRILLING-50 Concept" ที่เน้นดีไซน์สปอร์ตดุดัน เสริมภาพลักษณ์รถสปอร์ตปิกอัพ อย่างลงตัว นำมาแสดงเป็นไอคอนความสปอร์ตเพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์ของแบรนด์มาสด้าในประเทศ ไทย แนวคิดการออกแบบของรถปิกอัพมาสด้า บีที-50 โปร ใหม่ รถสปอร์ตต้นแบบที่โดดเด่นมีความแตกต่างจากรถแต่งบนถนนทั่วๆ ไป ตอบสนองคนหัวใจสปอร์ต อย่างเต็มที่ สร้างความเป็นเอกลักษณ์สไตล์สปอร์ตแบบสุดๆ ที่เน้นถึงความเป็นสปอร์ตและความหรูหรา ควบคู่กันได้อย่างลงตัว นี่คืออีกหนึ่งในผลงานแห่งความภูมิใจในรูปแบบรถสปอร์ตครอสโอเวอร์ปิกอัพ 4 ประตู รุ่นพิเศษที่ฉีกกฎของการออกแบบสไตล์เดิมๆ จากมาสด้า ด้วยชุดแอร์โร่พาร์ทที่ตกแต่งรอบคัน ชุดแต่งกันชนหน้าแบบสปอร์ต Sports Guard ชุดแต่งกันชนหลังสไตล์ทูโทนใหม่พร้อมสเกิร์ต ชุดตกแต่งบันไดข้างพิเศษสีดำด้าน ชุด Sports Styling Bar พร้อมไฟเบรก LED และพื้นปูกระบะ สติ๊กเกอร์ดีไซน์สปอร์ต โลโก้ PRO พิเศษสีแดง ชุดแป้นคันเร่ง Sports Pedal แผ่นยางปูพื้นห้องโดยสารโลโก้ BT-50 PRO สีแดง ที่พร้อมเปิดให้จองเฉพาะงานนี้ ด้วยจำนวนจำกัดเพียง 1,000 คันเท่านั้น
รถยนต์นั่งสปอร์ตมาสด้า2 ลิมิเต็ด อิดิชั่น
สำหรับรถแต่งมาสด้า2 มาสด้ายังเอาใจสาวกสายพันธุ์สปอร์ตด้วยการเปิดตัวมาสด้า2 รุ่นพิเศษ Limited Edition ที่มาพร้อมอุปกรณ์ตกแต่งแท้จากโรงงาน ดีไซน์ใหม่เน้นความเป็นสปอร์ต ที่ใส่อุปกรณ์เสริมพิเศษรอบคัน โดยเฉพาะไฟหน้าแบบ LED ให้ความเป็นสปอร์ตหนึ่งเดียวในคลาส เสริมด้วยชุดคิ้วขอบกระจังหน้าใหม่ ชุดสเกิร์ตหลัง พร้อมดิฟิวเซอร์ มือจับประตูโครเมี่ยม เติมดีกรีด้วยสติ๊กเกอร์ออกแบบพิเศษลายกราฟฟิก Limited Edition ปลายท่อสเตนเลสสุดเท่ เสาอากาศแบบสั้น มาพร้อมล้ออัลลอย์ขนาด 16 นิ้ว พร้อมสีพิเศษ Polished Silver ภายในยังตกแต่งเสริมความเป็นสปอร์ตดุดันมากยิ่งขึ้นด้วยเบาะผ้าสีดำ แต่งด้วยด้ายสีแดงพร้อมโลโก้ Mazda2 พวงมาลัยหนังสีดำแต่งด้วยด้ายสีแดง มีให้เลือกถึง 3 สี ประกอบด้วย สีพิเศษ สีแดง ซีลเรด ไมก้า Zeal Red Mica สีขาวอาคตอชิค ไวท์ และสีดำ แบล็กไมก้า ซึ่งมีให้เลือกทั้งแบบสปอร์ต แฮตช์แบค 5 ประตู ราคาเพียง 691,000 บาท และเอลิแกนซ์ ซีดาน 4 ประตู ราคาเพียง 686,000 บาท และมีจำนวนจำกัดเพียง 1,000 คันเท่านั้น
รถยนต์นั่งมาสด้า3 รุ่นพิเศษ S+
รถยนต์นั่งสปอร์ตมาสด้า3 เครื่องยนต์ 1.6 ลิตรใหม่ รุ่นพิเศษ "S+" (เอส พลัส) ตกแต่งพิเศษ เพิ่มอุปกรณ์ตกแต่งเสริมความสปอร์ตรอบคัน ทั้งสเกิร์ตข้าง สปอยเลอร์หลังคาดีไซน์ใหม่ หลังคาดำด้าน Sports Black ล้ออัลลอยด์ขนาด 17 นิ้ว ดีไซน์ใหม่สีพิเศษ Gun Metallic เบาะหนังสีดำให้ความเป็นสปอร์ตคมเข้ม ตลอดจนแผงประตู ที่วางแขนคอนโซลกลาง และพวงมาลัย ตกแต่งด้วยหนังสีดำพร้อมเดินด้ายคู่สีแดงสุดสปอร์ มีให้เลือกถึง 3 สี ประกอบด้วย สีขาวอาคทิค ไวท์ สีแดง ทรู เรด และสีเงิน ไฮไลท์ ซิลเวอร์ ซึ่งทั้งหมดผลิตจำนวนจำกัดเพียง 1,000 คัน เท่านั้น ราคาสำหรับซีดาน 4 ประตู 860,00 บาท และสำหรับรุ่นแฮตช์แบค 5 ประตู ราคา 888,000 บาท
รถยนต์นั่งสปอร์ตมาสด้า3 NEW THRILLING 4 CONCEPT
ในส่วนของรถยนต์นั่งสปอร์ตมาสด้า3 New THRILLING 4 Concept ได้รับการออกแบบและตกแต่งพิเศษ ได้แรงบันดาลใจมาจากคอนเซ็ปต์ KODO Design (Soul of Motion) หรือ จิตวิญญาณแห่งการเคลื่อนไหว ที่เริ่มใช้ครั้งแรกในรถต้นแบบ Mazda SHINARI, TAKERI, และ MINAGI ของมาสด้า ด้วยกระจังหน้าทรง 8 เหลี่ยม พร้อมช่องดักลมทั้งซ้ายและขวาที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ผสมผสานกับสไตล์การออกแบบแนว Modern Luxury ที่นำเอาความล้ำยุคและความหรูหรามาผสมผสานเข้ากันอย่างลงตัว สีใหม่พิเศษ Chrome Silver พร้อมชุดแอร์โร่พาร์ทกันชนหน้า-หลังดีไซน์ใหม่ พร้อมครอบปลายท่อไอเสียซ้ายและขวา สเกิร์ตด้านข้างดีไซน์ใหม่ ล้อแม็กซ์ VERTINI รุ่น MONACO สีเงิน ปัดเงาขอบสแตนเลส ล้อหน้าขนาด 8.5 x 20 นิ้ว ล้อหลังขนาด 9.5 x 20 นิ้ว จานเบรกหน้า-หลัง แบบเจาะรูและเซาะร่องขนาด 370 มม. คาลิเปอร์คู่หน้าแบบ 6 Pot ขนาดใหญ่ และคู่หลังแบบ 6 Pot ขนาดกลาง ภายในเบาะ RECARO รุ่น Sportster หนังแท้สีดำสลับด้วยอัลคันทาร่าสีเบจ ไฟหน้าระบบซีนอน พร้อมวงแหวนและไฟเรืองสีฟ้า ตกแต่งด้วย LED บริเวณกระจังหน้าตกแต่งด้วยไฟ Day Time Running Light ไฟท้ายออกแบบใหม่เพิ่มหลอด LED กันชนท้ายตกแต่งด้วยไฟทับทิม LED โช้คอัพชุดสตรัทปรับเกลียวขึ้นลงได้และชุดโหลดของ BC Sport
รถยนต์นั่งสปอร์ตมาสด้า3 NEW THRILLING 5 CONCEPT
การออกแบบรถยนต์มาสด้า3 New THRILLING 5 Concept มาพร้อมชุดแอร์โร่พาร์ทรอบคัน สีใหม่พิเศษ สีดำ Black Carbon กันชนหน้า-หลังดีไซน์ใหม่ พร้อมที่ครอบปลายท่อไอเสียซ้ายและขวา สเกิร์ตข้างดีไซน์ใหม่ สปอยเลอร์ท้ายบนหลังคา ฝากระโปรงพร้อม Scoop ดักลม ล้อแม็กซ์ NAYA รุ่น MESSE สีแดงทั้งวง ล้อหน้าขนาด 8.5x20 นิ้ว ล้อหลัง 9.5x20 นิ้ว จานเบรกหน้า-หลัง แบบเจาะรูเซาะร่องขนาด 370 มม. คาลิเปอร์คู่หน้าแบบ 6 Pot ขนาดใหญ่ และคู่หลังแบบ 6 Pot ขนาดกลาง ภายในตกแต่งด้วยเบาะนั่ง Bride รุ่น CUGA ลายด้านหลังเป็นคาร์บอนไฟเบอร์ พวงมาลัยหุ้มหนังแท้สลับด้วยอัลคันทาร่าสีแดง แผงประตูทั้ง 4 บานและบริเวณที่พักแขนบุด้วยอัลคันทาร่า ไฟหน้าระบบซีนอน พร้อมวงแหวนเรืองแสงสีแดง ตกแต่งด้วย LED บริเวณกระจังหน้าตกแต่งด้วยไฟ Day Time Running Light ไฟท้ายออกแบบใหม่เพิ่มหลอด LED กันชนท้ายตกแต่งด้วยไฟทับทิม LED โช้คอัพชุดสตรัทปรับเกลียวขึ้นลงได้และชุดโหลดของ BC Sport หม้อพักสเตนเลส พร้อมท่อไอเสียคู่สเตนเลส แยกซ้าย-ขวา พร้อมปลายท่อเคลือบสีรุ้งขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 11 ซม. สไตล์การออกแบบในแนวของรถแข่ง โดยเน้นที่ความดุดันของชุดแอร์โร่พาร์ท รอบคันที่พร้อมสะกดทุกสายตาที่เหลียวมอง
เชิญสัมผัสและทดลองขับรถยนต์มาสด้า2 สปอร์ต และมาสด้า2 เอลิแกนซ์ รถยนต์นั่งสปอร์ตมาสด้า3 2.0ลิตร และ 1.6 ใหม่ ปิกอัพสไตล์เก๋ง มาสด้า บีที-50 โปร และรถสปอร์ตโรดสเตอร์มาสด้า เอ็มเอ็กซ์-5 และรถสปอร์ตครอสโอเวอร์หรู 7 ที่นั่ง มาสด้า ซีเอ็กซ์-9 ได้ที่โชว์รูมและศูนย์บริการมาตรฐานของมาสด้า 145 แห่งทั่วประเทศ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ มาสด้า สปีดไลน์ หมายเลขโทรศัพท์ (02) 664-4888 หรือต่างจังหวัดโทรฟรี ได้ที่หมายเลข1-800-226-408

เปิดตัว MINI Paceman มินิรุ่นใหม่ล่าสุดพร้อมเสริมทัพรถมินิครั้งแรกในประเทศไทย

MINI Paceman 'โฉบเฉี่ยวสไตล์สปอร์ต' รถรุ่นที่ 7 ของทัพรถมินิ
มินิ Not Normal เปิดตัว MINI Paceman รถรุ่นที่ 7 ของมินิ ซึ่งมีด้วยกัน 3 รุ่น เพื่อตอบโจทย์ทุกรสนิยมของลูกค้า ได้แก่ MINI Cooper Paceman ศิลปินแห่งท้องถนน MINI Cooper S ALL4 Paceman ศิลปะชิ้นเอกแห่งยนตรกรรม และ MINI Cooper SD ALL4 Paceman พลังแห่งความสร้างสรรค์




คุณจตุพล พุทธวิบูลย์ ผู้จัดการทั่วไป มินิ ประเทศไทย กล่าวว่า "MINI Paceman รุ่นใหม่นี้เป็น Sport Activity Coupe' ซึ่งเป็นครั้งแรกของโลกในตลาดรถยนต์หรูขนาดเล็กและคอมแพ็ค และเป็น รุ่นที่ 7 ของตระกูลมินิที่มาพร้อมเอกลักษณ์เฉพาะตัว และผสมผสานนวัตกรรมแห่งความหรูหรา ดีไซน์ที่ประณีต และความสนุกสนานในการขับขี่ตามสไตล์ของมินิไว้ได้อย่างลงตัว รวมถึงภายในห้องโดยสารที่ได้รับการออกแบบให้ใช้งานได้อเนกประสงค์ ทำให้ MINI Paceman เป็นสุดยอดยนตรกรรมสำหรับขับขี่ในเมืองอย่างแท้จริง"
MINI Paceman มาพร้อมกับเอกลักษณ์เฉพาะตัวของมินิ ด้วยความหรูหราในสไตล์อังกฤษ
การออกแบบหลังคาสไตล์คูเป้ที่ลาดลงเล็กน้อยเพิ่มความสวยงาม พร้อมกับไฟท้ายที่ออกแบบมาในแนวนอนรับกับกระจกหลังที่ลาดเอียงช่วยเน้นรูป ลักษณ์ที่สปอร์ตและโฉบเฉี่ยวมากยิ่งขึ้นคิ้วโครเมี่ยมด้านข้างที่รับกับล้อ อัลลอยด์อย่างกลมกลืน ให้อารมณ์ของความเป็น MINI Paceman ได้อย่างชัดเจน
MINI Paceman โดดเด่นสะดุดตาด้วยดีไซน์ของรถคูเป้สามประตู ประกอบด้วยประตูหน้าสองประตูและประตูหลังขนาดใหญ่ เบาะหลังสามารถพับเก็บได้เพิ่มพื้นที่ความจุ 330 - 1,080 ลิตร ภายในห้องโดยสารออกแบบให้เบาะด้านหน้ายกสูงกว่าเบาะด้านหลังเล็กน้อยเพื่อ เพิ่มทัศนียภาพที่ชัดเจนและสวยงามขณะขับขี่ พร้อมกับบรรยากาศกว้างขวางของห้องโดยสารด้านหลังที่ออกแบบมาในสไตล์เลาจ์ นตอบสนองความสะดวกสบายในการเดินทาง
นอกเหนือไปจากการผสานเอกลักษณ์โดดเด่นภายนอกและดีไซน์หรูหราภายในได้ อย่างลงตัว MINI Paceman ยังได้นำเทคโนโลยี MINIMALISM เพื่อการขับขี่อย่างประหยัดพลังงานสไตล์มินิ มาใช้ รวมถึงเทคโนโลยีอื่นๆ เช่น ระบบชาร์จไฟแบตเตอรี่แบบอัตโนมัติและพวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า
MINI Paceman มาให้เลือก 3 สไตล์ ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์อย่างลงตัว ได้แก่
MINI Cooper Paceman - ศิลปินแห่งท้องถนน
MINI Cooper Paceman เป็นผลงานศิลปะบนท้องถนน ด้วยเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร พร้อมกับกำลังสูงสุด 122 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที มีอัตราการประหยัดน้ำมันอยู่ที่ 13.8 กิโลเมตรต่อลิตร
MINI Cooper S ALL4 Paceman - ศิลปะชิ้นเอกแห่งยนตรกรรม
MINI Cooper S ALL4 Paceman รถรุ่นที่มีความเร็วสูง ซึ่งได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน ผสมผสานระหว่างความสวยงามและความรวดเร็วอย่างกลมกลืน มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 1.6 ลิตร พร้อมเทอร์โบ Twin-Scroll สามารถผลิตกำลังสูงสุดได้ถึง 184 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที พร้อมกำลังอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในเวลาเพียง 8.2 วินาที โดยมีอัตราการประหยัดน้ำมันเฉลี่ยอยู่ที่ 13 กิโลเมตรต่อลิตร
MINI Cooper SD ALL4 Paceman - พลังแห่งความสร้างสรรค์
MINI Cooper SD ALL4 Paceman มาพร้อมกับความยิ่งใหญ่ของสมรรถนะ ด้วยประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ Turbocharger Diesel 2.0 ลิตร มีกำลังสูง 143 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที
รถทุกรุ่นพร้อมจำหน่ายแล้ว ที่ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของมินิ ประเทศไทย ในราคาจำหน่ายสำหรับ MINI Cooper Paceman 2,490,000 บาท, MINI Cooper S ALL4 Paceman 2,950,000 บาท และ MINI Cooper SD ALL4 Paceman 3,190,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
และเพื่อมอบความสะดวกสบายให้แก่เจ้าของรถมินิทุกท่าน มินิ Not Normal ยังได้จัดโปรแกรมบริการหลังการขาย MINI Service Inclusive (MSI) ซึ่งเป็นการดูแลบำรุงรักษารถมินิตลอดระยะเวลา 3 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร โดยลูกค้าสามารถเลือกขยายระยะเวลาต่อไปอีก 3 ปี หรือ 10,000 กิโลเมตร รวมเป็น 6 ปี หรือ 60,000 กิโลเมตร ทั้งนี้ โปรแกรม MSI มาพร้อมกับรถเพื่อให้ลูกค้าที่รับการส่งต่อรถมินิสบายใจกับระยะเวลาบริการ ที่เหลืออยู่ และช่วยเพิ่มมูลค่าให้แก่รถมินิเมื่อเปลี่ยนเจ้าของอีกด้วย

วันพฤหัสบดีที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2556

PAG ขนทัพรถหรูและผลิตภัณฑ์ดูแลรถยนต์ Auto Glym ร่วมงาน ออโต้ ซาลอน 2013



PAG (Performance Auto Gallery) ผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่ เบนท์ลี่ย์และผลิตภัณฑ์ดูแลรถยนต์ Auto Glym เข้าร่วมงาน Bangkok International Auto Salon 2013 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 2-3 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี พร้อมนำสุดยอดยนตกรรมซูเปอร์คาร์ระดับโลกและผลิตภัณฑ์ดูแลรถยนต์ Auto Glym ที่ขายดีที่สุดในประเทศอังกฤษมาร่วมแสดงภายในงาน 


ในงานครั้งนี้ PAG ผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่และผลิตภัณฑ์ดูแลรถยนต์ Auto Glym อย่างเป็นทางการ ได้นำยนตรกรรมสุดหรูอย่าง เบนท์ลี่ย์ คอนติเนนทัล จีที วี8 (Bentley Continental GT V8) และสุดยอดนวัตกรรมยานยนต์ระดับโลกอย่าง ปอร์เช่ บ็อกซเตอร์ (Boxster) และปอร์เช่ เคย์แมน (Cayman) มาร่วมแสดงในงาน Bangkok International Auto Salon 2013 ครั้งที่ 2 นี้ ซึ่งเป็นงานแสดงรถและอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์มาตรฐานเดียวกับงาน โตเกียว ออโต้ ซาลอน โดยทาง PAG ได้เข้าร่วมงานเพื่อแสดงให้เห็นว่ารถยนต์ทุกคันนำเข้าโดยบริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ซึ่งได้ผ่านการทดสอบมาตรฐานสำคัญสำหรับการนำมาใช้ในประเทศไทย ระบบการจัดแต่งเครื่องยนต์ การปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับกฏระเบียบและสภาพภูมิประเทศของประเทศไทยอย่างดี ที่สุด รวมถึงยังมีศูนย์บริการพร้อมทีมวิศวกรที่มากประสบการณ์ ที่ได้รับการอบรบจากทางโรงงานโดยตรง พร้อมให้การดูแลและบริการรถยนต์สุดหรูของท่าน ลูกค้าทุกท่านที่ซื้อรถยนต์จาก PAG สามารถมั่นใจในบริการหลังการขาย คุณภาพรถยนต์ที่ได้รับมาตรฐาน และรถยนต์ทุกคันผ่านการชำระภาษีนำเข้าตามอัตราอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
ข้อเสนอพิเศษ เมื่อซื้อรถยนต์จากทาง PAG พร้อมรับทันทีประกันจากโรงงานปอร์เช่เยอรมนีนาน 9 ปี และ Service Package นาน 4 ปี*
นอกจากนี้ PAG ยังนำผลิตภัณฑ์ดูแลรถยนต์ Auto Glym ผลิตภัณฑ์ดูแลรักษารถยนต์นำเข้าและขายดีที่สุดในประเทศอังกฤษ แบรนด์แรกและแบรนด์เดียวที่ได้รับการรับรองคุณภาพโดยให้ใช้ตราสัญลักษณ์ของ พระราชวงศ์อังกฤษเคียงคู่กับตราสินค้า ผลิตภัณฑ์ทุกตัวมุ่งเน้น และพัฒนาเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้งาน ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม คุณจึงมั่นใจได้ Auto Glym คือสุดยอดนวัตกรรมแห่งความเงามที่ให้คุณสัมผัสได้ถึงความแตกต่าง
พิเศษ!!! ส่วนลดสูงสุดถึง 50% อาทิเช่น ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด, ผลิตภัณฑ์ขัด - เคลือบสี, ผลิตภัณฑ์ดูแลรักษาภายในและผลิตภัณฑ์อื่นๆ อีกมากมายในราคาพิเศษที่คนรักรถอย่างคุณไม่ควรพลาด เพื่อเลือกสรรผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม และที่ดีที่สุดสำหรับรถของคุณ และทางเรายังเปิดรับปรึกษาปัญหาเกี่ยวกับสภาพสีรถยนต์ รอยขนแมว คราบฝังแน่นต่างๆ รวมถึงการเปิดรับสมัครผู้สนใจมาร่วมลงทุนทำธุรกิจคาร์แคร์ภายใต้ข้อเสนอที่ แตกต่าง
ภายในงานยังมี Life style shop ที่ทาง PAG นำเสนอผลิตภัณฑ์ Accessory ของรถยนต์หรูทั้ง 2 แบรนด์นี้ มาให้ทุกท่านได้เลือกชมและจับจองเป็นเจ้าของได้ในราคาพิเศษสุดที่งานนี้งาน เดียวเท่านั้น

วันพุธที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2556

GS HYBRID พลังงานเหนือจินตนาการ




บริษัท สยามยีเอสเซลส์ จำกัด แนะนำสินค้าใหม่ "GS HYBRID" พลังเหนือจินตนาการทางเลือกใหม่สำหรับผู้ใช้รถกระบะพัฒนาเพื่อการใช้งานที่ สมบุกสมบัน และรถยนต์ที่ใช้งานหนักทุกรูปแบบพร้อมใช้ทันทีเติมน้ำกรดและชาร์จไฟจากโรง งานการันตีประสบการณ์มากกว่า 13 ปี ที่ส่งตรงถึงโรงงานผู้ผลิตรถยนต์[OEM]กว่า 1 ล้าน 8 แสนลูก 


GS HYBRID แบตเตอรี่พร้อมใช้ทันที ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาคุณสมบัติพิเศษที่ว่า..... GS HYBRID เหนือกว่าด้วยค่ากำลังสตาร์ทเครื่องยนต์แรงสูงถึง 662 แผ่นธาตุ 17 แผ่น 85 แอมป์ สร้างความมั่นใจทุกครั้งที่สตาร์ทเครื่องยนต์, แบตเตอรี่พร้อมใช้ทันทีเติมน้ำกรดและชาร์จไฟจากโรงงาน ได้คุณภาพและมาตรฐานทุกลูก, ไม่ต้องเติมน้ำกลั่นบ่อยลดอัตราการเติมน้ำกลั่นน้อยกว่าแบตเตอรี่ Conventional ถึง 2 เท่า พร้อมมีตาแมวไว้ตรวจสอบสถานะน้ำกรดและ มีระบบความปลอดภัยป้องกันประกายไฟภายนอกเข้าไปในตัวแบตเตอรี่ โดยการใช้จุก Vent Plug พร้อมฟิลเตอร์ นำเข้าจาก GS ประเทศญี่ปุ่น มาตรฐานเดียวกันกับที่ได้ส่งให้กับโรงงานผู้ผลิตรถยนต์ [OEM] สนใจสอบถามได้ที่ บริษัท สยามยีเอสเซลส์ จำกัด โทร.02-726-8054-7
ติดต่อ:
ประชาสัมพันธ์
บริษัท สยามกลการ จำกัด
โทร.02-215-0830-50 ต่อ 1471,1475

วันอังคารที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2556

บางกอก อินเตอร์เนชันแนล ออโต ซาลอน ครั้งที่ 2 ก้าวสู่สุดยอดงานแสดงรถแต่งยิ่งใหญ่ที่สุดในอาเซียน จัดเต็มรูปแบบใหม่เอนเตอร์เทนเม้นท์คาร์โชว์ 20-30 มิถุนายน 2556 ชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี

กระหึ่มวงการยานยนต์และงาน แสดงสินค้าในภูมิภาค เมื่องาน 'บางกอก อินเตอร์ เนชันแนล ออโต ซาลอน 2013' ครั้งที่ 2 เปิดฉากอย่างอลังการ ก้าวสู่สุดยอดงานแสดงรถแต่งและอุปกรณ์ โมดิฟาย ยิ่งใหญ่ที่สุดในอาเซียน นำสุดยอดรถแต่ง 'คัสตอม เมด' ส่งตรงจากญี่ปุ่นมาอวดโฉมร่วม 50 คัน ในบูทจัดแสดงอุปกรณ์และโปรโมชั่นพร้อมรถแต่งนับพันคันจากสารพัดสัญชาติ พบกับความบันเทิงและการแสดงหลากหลายตื่นเต้นเร้าใจกับสาวสวยระดับแนวหน้าจาก ญี่ปุ่น เอเชีย และไทย ร่วมเปิดสนามแข่งรถดริฟท์ระดับอินเตอร์ฯ 'ดีวัน ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ ซีรีส์ 2013' ความยิ่งใหญ่ทั้งหมดนี้พร้อมเกิดขึ้น 20-30 มิถุนายนนี้ ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 2-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี 




'สยามสปอร์ต' ร่วมกับ 'อินสไพร์ เอนเตอร์เทนเม้นท์' จัดงานแถลงข่าวและพิธีเปิดงาน 'บางกอก อินเตอร์ เนชันแนล ออโต ซาลอน 2013' ครั้งที่ 2 ทุ่มทุนกว่า 300 ล้านบาท เนรมิตรพื้นที่ 40,000 ตารางเมตร ให้ผู้เข้าชมงานได้ ยลโฉมสุดยอดรถแต่งอย่างใกล้ชิด ภายใต้คอนเซ็ปต์ 'Design by Imagination' (แต่งได้ตามใจจินตนาการ) โดยมี ผู้จำหน่ายรถและอุปกรณ์ตกแต่งจากทั้งไทย เอเชีย และยุโรป ร่วมออกบูทกว่า 300 ราย พร้อมจัดแต่งรถสุดพิเศษเพื่อแสดงในงานนี้โดยเฉพาะ รวมถึงการประกาศความเคลื่อนไหวด้านธุรกิจตกแต่งและประดับยนต์ครั้งสำคัญของ ไทยหลายราย ในงานนี้ โดยตั้งเป้าผู้ชมงานรวมถึง 1,000,000 คน
งานนี้ได้รับเกียรติจากหลายบุคคลสำคัญร่วมขึ้นแถลงข่าว นำโดย นายวิลักษณ์ โหลทอง ประธาน บริษัท อินสไพร์ เอนเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด และประธานการจัดงานบางกอก อินเตอร์เนชันแนล ออโต ซาลอน เป็นผู้กล่าวรายงาน ร่วมด้วย มร.ซาโตชิ ซูซูกิ กรรมการบริหาร บ.ซัง-เอ โชโบ พับบลิชชิ่ง จำกัด เจ้าของลิขสิทธิ์งานโตเกียว ออโต ซาลอน, นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา รองผู้อำนวยการ สายงานบริหารและสนับสนุนกลยุทธ์ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) จากนั้น ฯพณฯ พลเรือเอกหม่อมหลวงอัศนี ปราโมช องคมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิด ท่ามกลางผู้บริหาร อาทิ มร.ชิเกคิ โคบายาชิ ผู้อำนวยการสำนักข่าวสารญี่ปุ่น ที่ปรึกษาสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่น, นายสรัญ รังคสิริ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท. จำกัด ( มหาชน ), นางทัศนา พิริยพฤทธิ์ รองผู้อำนวยการสถาบันยานยนต์, นายพอลล์ กาญจพาสน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น เมเนจเม้นท์ จำกัด, แขกผู้มีเกียรติและสื่อมวลชนที่เข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง
นายวิลักษณ์ โหลทอง ประธานการจัดงานฯ เผยว่า "เรามีความพร้อมอย่างเต็มที่ในการจัดงาน โดยปีนี้เน้นความพิเศษยิ่งขึ้นกับรูปแบบการจัดงานแบบ "เอนเตอร์เทนเม้นท์คาร์โชว์" (Entertainment Car Show) ของต้นกำเนิด โตเกียว ออโต ซาลอน งานคาร์โชว์ระดับโลก โดยแบ่งกิจกรรมเป็น 3 ส่วนสำคัญ คือ การแสดงนวัตกรรมและการออกแบบรถแต่งและอุปกรณ์โมดิฟายของผู้ประกอบการต่างๆ การเปิดโอกาสทางธุรกิจและส่งเสริมการตลาด และความบันเทิงสนุกสนานต่างๆ โดยผู้ชมสามารถได้รับความสนุกสนานหลากมิติได้ภายในงานเดียว พร้อมตอบรับไลฟ์สไตล์อันทันสมัยแบบคนรุ่นใหม่ของกลุ่มเป้าหมายผู้เข้าชมงาน ความสำเร็จนี้เกิดขึ้นได้จากความร่วมมือเป็นอย่างดีของทุกฝ่าย ทั้งการสนับสนุนของภาครัฐ องค์กรการค้าต่างประเทศ และพันธมิตรทางธุรกิจทั้งในและต่างประเทศของเรา"
สิ่งสำคัญที่สุดคือ การได้สัมผัสใกล้ชิดกับรถแต่งระดับโลกกว่า 50 คัน นำเข้าจาก Tokyo Auto Salon Zone ของญี่ปุ่น โดยแต่ละคันนับเป็น 1 เดียวในโลก ที่มีทั้งความแรงและความสวยงามจากฝีมือของสำนักแต่งชื่อดังในญี่ปุ่น รวมมูลค่ารถพร้อมอุปกรณ์โมดิฟายสูงกว่า 700 ล้านบาท รถคันที่แนะนำห้ามพลาดชมเด็ดขาด คือ รถเร็วที่สุดในโลกในรุ่นเดียวกัน นิสสัน ซูเปอร์ จีที-อาร์ 1200 ท๊อป ซีเคร็ท ด้วยเครื่องยนต์ทรงพลังกว่า 1,000 แรงม้า สร้างสถิติความเร็วสูงสุดถึง 377.246 กม./ชม. ที่สนาม Nardo Top Speed Challenge ประเทศอิตาลีช่วงต้นปีที่ผ่านมา, โตโยต้า 86 ทอมส์, มาสด้า อาร์เอ็กซ์-8 ไนท์ สปอร์ต ซึ่งร่วมแข่งขันในงาน มาเก๊า จีพี โรดสปอร์ต ชาเลนจ์, บีเอ็มดับเบิลยู แกรนด์คูเป้ 3ดี ดีไซน์ อิดิชั่น, และรถฮอนด้า ซีอาร์-แซด มูเก็น อาร์อาร์ คอนเซ็ปต์, ซูบารุ เลกาซี่ จีที300, อาร์ติส แฮรี่เออร์ ไทป์ อิซาวา ดีไซน์ เวอร์ เรียล ซี สไตล์ ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศสาขาเอสยูวีจากโตเกียว ออโต ซาลอน 2013 รวมทั้งจักรยานยนต์และอุปกรณ์ตกแต่งล้ำสมัยอีกมากมาย
นอกจากนี้ยังมีบูทของผู้ประกอบการชั้นนำของไทย ที่ซุ่มแต่งรถรุ่นพิเศษมาประชันกันเพื่องานนี้โดยเฉพาะ พร้อมทั้งชุดแต่งและอุปกรณ์โมดิฟายของบริษัทรถรายใหญ่ เช่น โตโยต้า, ฮอนด้า, นิสสัน, มาสด้า, อีซูซุ, ซูบารุ รวมถึงบีเอ็มดับเบิลยู, มินิ และซูเปอร์คาร์ เช่น เฟอร์รารี่, ลัมโบกินี่, โลตัส ฯลฯ
อาบาร์ธ สำนักแต่งหรูของเฟียต ได้นำรถอาบาร์ธ 695 เอดิซีโอเน มาเซอราติ (Abarth 695 Edizione Maserati) รุ่นพิเศษผลิตขึ้นเพื่อฉลองครบรอบ 30 ปีของการแข่ง Mille Miglia race จำนวนเพียง 499 คันในโลก มาจัดแสดงในไทยเป็นครั้งแรก
ยามาฮ่า นำจักรยานยนต์หลากรุ่นรวมทั้งบิ๊กไบค์พร้อมชุดแต่งมาจัดแสดง รวมถึงอุปกรณ์ตกแต่งรถหรือประดับยนต์ประเภทต่างๆ เช่น ฟิล์มกรองแสงลามิน่า, พีพี ซูเปอร์ วีล, ชุดแต่งสปูน โดยโอ๊คคลับ, มิตซูโอกะ, วีเทค สโตร์, ล้อแม็กเวิร์ค, ล้อแม็กเลนโซ, นิตโตะ, เทอิน, คัสโก้, อาร์เอสอาร์, อาซูกะ, โทโมกิ, อามามิย่า ฯลฯ
เบนซ์ เอ็นเค บริษัทผู้นำเข้ายนตรกรรมหรูชั้นแนวหน้าของไทย ได้ประกาศการได้รับสิทธิ์เป็นผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการในไทยของผู้ผลิตชุด แต่ง วาลด์ อินเตอร์เนชั่นแนล (WALD INTERNATIONAL) ในญี่ปุ่น และเปิดตัวชุดแต่งวาลด์ถึง 3 รุ่นในวันเปิดงานอีกด้วย
ใน European Zone พบกับรถแต่งซูเปอร์คาร์สุดหรู, Wheel Zone ล้อแม็กท็อปฮิต, Accessory Zone อุปกรณ์ โมดิฟายสารพัดรูปแบบ, Option Rev Up Zone รถพันธุ์โหดที่ชนะการแข่งแดร็ก และ Thailand Motor Sport Zone
อีกกิจกรรมไฮไลท์ คือ มอเตอร์สปอร์ตของรายการแข่งดริฟท์ระดับโลก ดีวัน กรังด์ปรีซ์ ไทยแลนด์ ซีรีส์ 2013 บาย พีทีที บลู อินโนเวชั่น เปิดสนามที่ 1-2 พร้อมกันในงานนี้ ณ ลานทะเลสาบ, การประชันความเร็ว Super Car Super Battle, กิจกรรมคาร์คลับ และการประกวดเครื่องเสียง
นอกจากนี้ในงานคัดสรรความบันเทิงจากทั้งไทยและต่างประเทศ โดยไฮไลท์ของสุดสัปดาห์แรก คอนเสิร์ต 'J-Pop Signature in Bangkok' นำโดย 2 นักร้องสุดฮิปบินจากโตเกียวเพื่องานนี้ คือ 'คานาเมะ คาวาบาตะ' มาเปิดตัวอัลบั้มใหม่ และ 'มิจิ' นักร้องลูกครึ่งสาวสวย ร่วมแสดงกับ 'ไทยเทเนียม' วงดนตรีดังของไทย โดยการสนับสนุนขององค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (JETRO) มูลนิธิส่งเสริมอุตสาหกรรมดนตรีและวัฒนธรรม (PROMIC) และ สมาคม ผู้จำหน่ายเครื่องดนตรีแห่งญี่ปุ่น (MPAJ) ผู้เข้าชมงานจะได้พบศิลปินไทยและขบวนสาวสวยทั้งญี่ปุ่น เกาหลี และไทยกว่า 100 คน สลับหมุนเวียนกันตลอด 11 วัน นำทีมโดย A-Class Girls สาวสวยอิมเมจเกิร์ลของโตเกียว ออโต ซาลอน, กราเวีย ไอดอล, ดริฟท์ แองเจิล, เรซ ควีน, นางแบบจากเกาหลี โชว์ล้างรถสุดเซ็กซี่ของสาวแดนอาทิตย์อุทัยปะทะกับสาวดีกรีฮ็อตของไทย เอฟเอชเอ็ม เกิร์ล เน็กซ์ ดอร์, เรย์ โมเดล, เอสคาวาอิ ไอดอล รวมถึงศิลปะการต่อสู้นินจาสาวญี่ปุ่นครั้งแรกในไทย จากเอโดะ วันเดอร์แลนด์ รวมทั้งการประกวด A-Class Bangkok Auto Salon Image Girl 2013 เพื่อหาตัวแทนจากไทยไปร่วมงานโตเกียว ออโต ซาลอน 2014 ที่ญี่ปุ่น
อีกเรื่องสำคัญในงานบางกอก อินเตอร์เนชันแนล ออโต ซาลอน 2013 คือ ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือทีเส็บ (TCEB) เปิดโอกาสการขยายธุรกิจแก่ผู้ประกอบการทั้งไทยและต่างประเทศ นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา รองผู้อำนวยการ สายงานบริหารและสนับสนุน กลยุทธ์ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) กล่าวว่า
"การสนับสนุนการจัดงาน บางกอก อินเตอร์เนชันแนล ออโต ซาลอน ในครั้งนี้สอดคล้องกับพันธกิจหลักของทีเส็บ เพื่อสนับสนุน ส่งเสริม และพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมการจัดการประชุมและงานแสดงสินค้านานาชาติหรือ อุตสาหกรรมไมซ์ รวมถึงเพื่อสร้างโอกาสทางการตลาดและการแข่งขันให้กับอุตสาหกรรมไมซ์ของ ประเทศไทยในตลาดโลก อันจะนำประเทศไทยไปสู่การเป็นศูนย์กลางของการจัดงานไมซ์ระดับนานาชาติใน ภูมิภาคเอเชีย ประเทศไทย มีความพร้อมและมีศักยภาพที่แข็งแกร่ง ที่สามารถเชื่อมโยงเครือข่ายการค้าไปยังประเทศในอาเซียน และประเทศต่างๆ ทั่วโลก เนื่องจากเป็นศูนย์กลางการผลิตและส่งออกรถยนต์ที่สำคัญระดับต้นๆ ของโลก และเป็นผู้นำในภูมิภาคอาเซียนด้านการผลิตชิ้นส่วนและอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ มาตรฐานสากล โดยมีผู้ประกอบการทั้งขนาดเล็กกลางใหญ่ตั้งฐานการผลิตและส่งออกอยู่เป็น จำนวนมาก"
"ดังนั้น การจัดงาน บางกอก อินเตอร์เนชันแนล ออโต ซาลอน นับเป็นการผนวกจุดแข็งของประเทศไทยเข้าไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว อันมีส่วนช่วยให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นผู้นำและศูนย์กลางอุตสาหกรรมและ นวัตกรรมการแต่งรถ อุปกรณ์โมดิฟายรถระดับนานาชาติ ทีเส็บ ในฐานะองค์กรภาครัฐ จึงได้ให้การสนับสนุนการจัดงานในปีนี้ในด้าน B2B หรือ เทรด โดยเฉพาะในด้านการทำกิจกรรมการตลาดต่างประเทศ เพื่อช่วยเพิ่มจำนวนผู้เข้าร่วมแสดงงานและผู้เข้าร่วมชมงานจากต่างประเทศ อาทิ การสนับสนุนด้านการจับคู่ทางธุรกิจ ซึ่งก่อให้เกิดความร่วมมือทางธุรกิจระหว่างผู้ผลิตภายในประเทศและผู้ค้าจาก ต่างประเทศเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก อาทิ ญี่ปุ่น จีน มาเลเซีย สิงคโปร์ ปากีสถาน เป็นต้น ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสทางธุรกิจให้กับอุตสาหกรรมรถแต่งและอุปกรณ์ตกแต่งรถ ทั้งของไทยและระหว่างประเทศให้เติบโตมากยิ่งขึ้น"
มร.ซาโตชิ ซูซูกิ กรรมการบริหาร บ.ซัง-เอ โชโบ พับบลิชชิ่ง จำกัด กล่าวว่า "ไทยนับเป็นประเทศแรกที่ได้ลิขสิทธิ์ในการจัดแสดงรถโมดิฟายจากโตเกียว ออโต ซาลอน และประสบความสำเร็จอย่างดียิ่งในการจัดครั้งแรกเมื่อปีที่แล้ว สำหรับบางกอก อินเตอร์เนชันแนล ออโต ซาลอน 2013 นับเป็นปีที่ 2 ของการจัดงานที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม และได้ก้าวสู่งานแสดงรถแต่งยิ่งใหญ่ที่สุดในอาเซียน โดยขยายพื้นที่ขึ้น 100 เปอร์เซ็นต์ รวมทั้งจำนวนบูท รถแต่งและอุปกรณ์โมดิฟาย ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการในญี่ปุ่น โดยในปีนี้ทาง Nippon Automotive Aftermarket Parts & Accessories Committee หรือ NAPAC องค์กรหลักที่ร่วมจัดงานโตเกียว ออโต ซาลอน ได้นำอุปกรณ์โมดิฟายและตกแต่งรถจากญี่ปุ่นกว่า 75 ชิ้น มาออกบูทในไทยเป็นครั้งแรก"
บางกอก อินเตอร์เนชันแนล ออโต ซาลอน ก้าวสู่การจัดงานแสดงอุปกรณ์รถแต่งและอุปกรณ์โมดิฟายระดับภูมิภาคอาเซียน แสดงความพร้อมของไทยในการเป็นศูนย์กลางการค้าอุตสาหกรรมชิ้นส่วนและอุปกรณ์ เหล่านั้น โดยเชิญผู้ค้าจากต่างประเทศ (trade delegates) ร่วมชมงานและเจรจาธุรกิจ โดยมีผู้มาร่วมงาน เช่น องค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (Japan External Trade Organization - JETRO) และคณะกรรมการผู้ผลิตชิ้นส่วนและอุปกรณ์ตกแต่งรถในญี่ปุ่น NAPAC (Nippon Auto Parts After Market Committee) ได้นำสมาชิกผู้ผลิตชิ้นส่วนร่วมออกบูทด้วย รวมทั้งสมาชิก AAAL (Automotive Aftermarket Action League) จากญี่ปุ่น สมาชิกสมาคมผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายชิ้นส่วนรถของปากีสถาน PASPIDA (Pakistan Automobile Spar Parts Importers & Dealers Association) และตัวแทนการค้าด้านยานยนต์จากสิงคโปร์ ฯลฯ
บางกอก อินเตอร์เนชันแนล ออโต ซาลอน 2013 จัดขึ้นช่วงวันที่ 20-30 มิถุนายน 2556 วันธรรมดา 12.00-21.30 น. วันเสาร์-อาทิตย์ 11.00-21.30 น. ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 2-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี บัตรราคา 100 บาท
www.bangkokinternationalautosalon.com & www.facebook.com/Bangkokinternationalautosalon
รายละเอียดเพิ่มเติม: ฝ่ายประชาสัมพันธ์โทร: 02 508 8100 ex. 8149 or 8890
อีเมลล์ BIASmedia2013@inspire.co.th

Signature Cars นำเข้า BMW Z4 sDrive 18i Roadster

 
 
BMW Z4 sDrive 18i Roadster (จิ๋วแต่ราคาแจ๋ว)
บริษัท ซิกเนเจอร์ คาร์ส นำเข้ารถยนต์ BMW Z4 18i Roadster M-sport เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบแถวเรียง Twin Power Turbo มาพร้อมกับพละกำลังแรงม้า 156 ตัว อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน แรงบิดสูงสุด 24.45 กก.-ม. เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ ส่วนเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะเป็นอุปกรณ์พิเศษ สมรรถนะในรุ่นเกียร์ธรรมดาและอัตโนมัติ เร่ง 0-100 ใน 7.9 และ 8.1 วินาที อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยอยู่ที่ 14.7 กิโลเมตรต่อลิตร


สำหรับความเปลี่ยนแปลง ที่เห็นได้ชัดในรุ่นนี้ คือการปรับเปลี่ยนตำแหน่งการจัดวางของไฟ Daytime Running Light ส่วนกระจังหน้าตกแต่งด้วยสีเงิน เช่นเดียวกับครีบระบายความร้อนบริเวณซุ้มล้อหน้าไฟส่องสว่างยังคงใช้ไฟซีนอน หลังคา Hardtop น้ำหนักเบาสามารถเปิดหรือปิดในเวลาเพียง 19 วินาทีต่อการขับขี่ความเร็วไม่เกิน 40 กม./ชม. ส่วนล้ออัลลอยมาพร้อมลายใหม่ ขนาด 18 นิ้ว หุ้มด้วยยาง Run-Flat ที่มีมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยสีทูโทน โดยใช้หนัง Alcantara พร้อมวัสดุที่เป็นโลหะในส่วนของคอนโซลหน้า สวิตช์ควบคุมเครื่องปรับอากาศ โดดเด่นด้วยสไตล์การออกแบบ Hyper Orange Design Package เบาะนั่ง คอนโซลหน้าคอนโซลกลางตัดเย็บเดินด้ายสีส้ม คอนโซลหน้าและแผงประตูด้านข้างตกแต่งด้วยสีส้ม ตัดสลับกับวัสดุภายในอื่น ๆ ที่เป็นสีดำ ทำให้ห้องโดยสารดูสปอร์ตมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีออปชั่นให้เลือกเป็น M-Sport Package ทั้งการเซตระบบช่วงล่าง , ชุดพาร์ทรอบคัน , พวงมาลัย , ระบบเครื่องเสียง , เบาะอุ่น , ที่บังลมบริเวณศีรษะของที่นั่งผู้โดยสาร ฯลฯ
สัมผัส BMW Z4 ตัวจริงได้แล้ววันนี้ ที่โชว์รูมซิกเนเจอร์ คาร์ส ถนนกัลปพฤกษ์ โทร 02-417-2982



วันจันทร์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2556

เฮสนั่น แซนดี้ ครองผู้นำจ่าฝูงตลอดครึ่งฤดูกาล หลังศึกฟอร์มูล่า 3 ที่สเปน




แซนดี้ เคราแก้ว สตูวิค ครองตำแหน่งผู้นำจ่าฝูงเหนียวแน่น ด้วยคะแนนรวม 127 คะแนน นำเป็นอันดับที่ 1 ในยูโรเปี้ยน ฟอร์มูล่า 3 (European Formula 3) หลังจบสนาม 4 ที่เฆเรสเซอร์กิต (Jerez Circuit) ประเทศสเปน


ในวันเสาร์ที่ 15 มิถุนายนที่ผ่านมา เริ่มต้นการแข่งขัน 2013 European Formula 3 Open สนามที่ 4 เรสที่ 1 ด้วยสภาพอากาศสดใส แซนดี้ เคราแก้ว สตูวิค นักแข่งรถตัวแทนประเทศไทย วัย 18 ปี ได้รับการสนับสนุนจาก สิงห์ คอร์ปอเรชั่น, เดอะพิซซ่าคอมปะนี, ดาคอน อินสเป็คชั่น เซอร์วิสเซส ราชยานยนต์สมาคมฯ และการกีฬาแห่งประเทศไทย แซนดี้ได้กริตสตาร์ทอันดับที่ 3 ผลจากการควอลิฟายในรอบเช้า ขณะที่โพลโพซิชั่นเป็นของ เนลสัน มาสัน (Nelson Mason) นักแข่งชาวแคนาดา แซนดี้ ออกสตาร์ทได้ดีในอันดับที่ 3 ก่อนถูกซานติเอโก ยูรูเทีย (Santiago Urrutia) นักแข่งชาวอุรุกวัย เบียดขึ้นนำภายในแลปที่ 1 เป็นผลให้นักซิ่งไทยตกเป็นอันดับที่ 4 ทันที แซนดี้เร่งความเร็วตีคืนอย่างสุดความสามารถ จนกระทั่งแลปที่ 12 นักซิ่งไทยเข้าโค้งพลาดแฉลบออกนอกสนาม แต่ไม่ได้รับอันตรายใดๆ กลับเข้าสนามแข่งอีกครั้งในอันดับที่ 5 ตามหลัง อเล็กซานเดอร์ คูนอด (Alexandre Cougnaud) นักแข่งชาวฝรั่งเศส แซนดี้รักษาอันดับได้ดีจนจบการแข่งขันทั้ง 18 แลป เข้าเส้นชัยเป็นอันดับที่ 5 ด้วยเวลารวม 31:06.711 นาที ห่างจากแชมป์อย่าง เนลสัน มาสัน (Nelson Mason) ด้วยเวลาเพียง 19.520 วินาทีเท่านั้น อันดับที่ 2 เอ็ด โจนส์ (Ed Jones) เวลา 30:53.363 นาที และอับดับที่ 3 ซานติเอโก ยูรูเทีย (Santiago Urrutia) เวลา 30:57.955 นาที
วันอาทิตย์ที่16 มิถุนายน การแข่งขันเริ่มดุเดือดขึ้น แซนดี้ได้กริตสตาร์ทในอันดับที่ 6 ขณะที่โพลโพซิชั่นเป็นของ เอ็ด โจนส์ นักซิ่งไทยขึ้นแซงอยู่ในอันดับที่ 5 หลังจากออกสตาร์ท โดยมีเพื่อนร่วมทีมอย่างซานติเอโก ยูรูเทีย นำหน้าอยู่ กระทั่งกลางแลปที่ 4 แซนดี้หาจังหวะเบียดแซงได้เป็นผลสำเร็จ หนุ่มน้อยนักขับตัวแทนประเทศไทยวัย 18 ปี รักษาอันดับได้ยอดเยี่ยมตลอดการแข่งขัน ทะยานเข้าเส้นชัยในอันดับที่ 4 ด้วยเวลา 30:50.617 นาที ที่หนึ่งเป็นของ เนลสัน มาสัน (Nelson Mason) ทำเวลาได้ 35:42.334 นาที และที่ 2 เอ็ด โจนส์ (Ed Jones) 30:43.240นาที และที่สามตกเป็นของ อเล็กซานเดอร์ คูนอด (Alexandre Cougnaud) ตามลำดับ ด้วยเวลา 30:47.733 นาที
การแข่งขันในครั้งทีมคณะกรรมการผู้ตัดสินได้รับเรื่องร้องเรียน เกี่ยวกับการปรับแต่งเครื่องยนต์ของนักขับบางคนที่ขึ้นรับรางวัลบนโพเดียม โดยทางคณะกรรมการผู้ตัดสินแจ้งว่าจะใช้ระยะเวลาประมาณ 1 เดือน ในการลงมติ ทั้งนี้ข้อสรุปจากการตรวจสอบดังกล่าวอาจส่งผลดีต่อนักซิ่งไทยได้รับคะแนนรวม เพิ่มขึ้น ไม่ว่าข้อสรุปจะเป็นอย่างไร ขณะนี้ แซนดี้ เคราแก้ว สตูวิค ยังคงรั้งตำแหน่งผู้นำจ่าฝูงในตารางแชมป์เปี้ยมชิพอย่างเหนียวแน่นตลอดครึ่ง ฤดูกาลของการแข่งขัน ด้วยคะแนนสะสม 127 คะแนน อันดับที่ 2 เอ็ด โจนส์ และอันดับที่ 3 เนลสัน มาสัน ซึ่งทั้งคู่มีคะแนนรวมเท่ากันอยู่ที่ 110 คะแนน
สนามถัดไป สนามที่ 5 จะมีขึ้นในวันที่ 13 -14 กรกฎาคมนี้ ณ สนามซิลเวอร์สโตน (Silverstone Circuit) ประเทศอังกฤษ ติดตามเชียร์แซนดี้ได้ ผ่านการถ่ายทอดสดทางเว็ปไซต์www.live.f3open.net
Sasinee Aoucharoenpuck, PR Executive
Tel +66 38 880788 Fax +66 38 880727
Email : sasinee@stuvik.com Website:

วันอาทิตย์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2556

"ซูบารุ"จัดหนักกับโปรโมชั่นสุดแรงมอบข้อเสนอสุดพิเศษ เมื่อจองรถยนต์ในงาน "บางกอก อินเตอร์เนชันแนล ออโต ชาลอน 2013"




ายอภิชัย ธรรมศิรารักษ์ ผู้จัดการทั่วไปบริษัท ทีซี ซูบารุ (ประเทศไทย) จำกัดในฐานะผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ซูบารุอย่างเป็นทางการเปิดเผยว่า บริษัทฯได้เข้าร่วมออกบูทแสดงรถยนต์ที่งานบางกอกอินเตอร์เนชันแนล ออโต ชาลอน 2013 ซึ่งเป็นงานแสดงรถแต่งและอุปกรณ์โมดิฟายที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียนเพื่อให้ผู้ บริโภคได้สัมผัสถึงรถยนต์ซูบารุรุ่นต่างๆ ที่มาพร้อมกับอุปกรณ์ตกแต่งของแท้จากโรงงงาน ซึ่งงานดังกล่าวจัดขึ้นที่อาคารชาเลนเจอร์ ฮฮลล์ 2 - 3 อิมแพ็ค เมืองทองธานีระหว่างวันที่ 20 - 30 มิถุนายน 2556 โดยซูบารุจัดแสดงที่บูท C10 


สำหรับงานบางกอก อินเตอร์เนชันแนล ออโต ชาลอน 2013ครั้งนี้ บริษัทฯได้นำรถยนต์ไปร่วมแสดง3 รุ่น ประกอบด้วย1.Subaru XV รถครอสส์โอเวอร์เจเนอเรชันใหม่ พร้อมชุดแต่งพิเศษจากซูบารุที่จะมาเปิดตัวเป็นครั้งแรกในเมือง ไทย2.SubaruImprezaSTIตัวแรงจากภาพยนตร์เรื่อง Fast &Furious3.Subaru Legacy GT สุดยอดรถยนต์Sedan จากซูบารุที่มาพร้อมเครื่องยนต์ Boxer Turbo 265 แรงม้าทั้งนี้บริษัทฯได้มอบสิทธิพิเศษสุดสำหรับลูกค้าที่สั่งจองรถยนต์ซูบา รุภายในงานนี้เท่านั้นที่จะได้รับข้อเสนอพิเศษโดยสิทธิพิเศษดังกล่าวมีจำนวน จำกัดและเป็นไปตามเงื่อนไขที่บริษัทฯกำหนด
และเพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นด้านการจำหน่ายและบริการหลังการขาย ซูบารุอยู่ระหว่างการดำเนินการขยายโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการเพิ่ม 10-15 แห่งภายในปี 2556 ซึ่งปัจจุบันซูบารุมีโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการทั้งหมด 15แห่งครอบคลุมทั้งกรุงเทพและปริมลฑล รวมทั้งจังหวัดต่างๆ เช่น เชียงใหม่, อุดรธานี,ขอนแก่น, นครราชสีมา,ชลบุรี (พัทยา), สุราษฎร์ธานี, สงขลา (หาดใหญ่) โดยโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการของซูบารุทุกแห่งมีความพร้อมในการให้บริการขับรถ ทดสอบ,การจำหน่ายและบริการหลังการขายที่ดีเยี่ยมด้วยบุคคลากรที่ผ่านการฝึก อบรมและเครื่องมือมาตรฐานเดียวกับซูบารุประเทศญี่ปุ่น เพื่อให้ครอบคลุมและเพียงพอต่อการดูแลรถยนต์ซูบารุที่จะเติบโตอย่างต่อ เนื่องในประเทศไทย

ตลาดรถจักรยานยนต์เดือนพฤษภายังน่าพอใจแม้เข้าฤดูฝน ปิด 5 เดือนแรกเติบโต 2%




ตลาดรถจักรยานยนต์ไทย เดือนพฤษภาคมยังมีแนวโน้มที่ดี แม้การซื้อขายจะได้รับผลกระทบไปบ้างจากฤดูมรสุมที่เริ่มต้นค่อนข้างเร็วในปี นี้จนทำอัตราการเติบโตปรับตัวลดลง แต่ก็ได้แรงซื้อที่สำคัญจากฐานลูกค้ากลุ่มนักเรียนนักศึกษาในช่วงเปิดเทอม ใหญ่ของปีมาช่วยผลักดันและส่งผลให้ตลาดโดยรวมยังคงสดใส ในส่วนของผู้นำตลาดอย่างฮอนด้ายังคงเดินหน้าจัดกิจกรรมร่วมกับร้านผู้ จำหน่ายฯหวังกระตุ้นยอดในช่วงปลายไตรมาสสองอย่างเต็มที่
นายสุชาติ อรุณแสงโรจน์ กรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด เปิดเผยว่า "สถิติการจดทะเบียนรถจักรยานยนต์ไทยเดือนพฤษภาคม 2556 มีปริมาณทั้งสิ้น 189,056 คัน ปรับตัวลดลงจากเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมา 12% อย่างไรก็ตาม ยอดจดทะเบียนดังกล่าวยังถือว่าค่อนข้างสูงหากเทียบกับยอดในเดือนพฤษภาคม 2554 ซึ่งในปีนั้นตลาดมียอดรวมทั้งปีกว่าสองล้านคัน จึงกล่าวได้ว่ายอดจดทะเบียนเดือนพฤษภาคมปีนี้ยังเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างน่าพอ ใจ โดยสาเหตุที่ทำให้เกิดความคึกคักก็เนื่องมาจากเป็นช่วงเปิดเทอมใหญ่ของ สถาบันการศึกษาทั่วประเทศ ส่งผลให้ปริมาณการซื้อขายนั้นอยู่ในเกณฑ์ที่สูง ล่าสุดยอดจดทะเบียนสะสม 5 เดือนแรก นับตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงพฤษภาคม 2556 อยู่ที่ 907,154 คัน เติบโตกว่าช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา 2%"


"ในส่วนของยอดจดทะเบียน ของค่ายฮอนด้าตลอดเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาอยู่ที่ 139,869 คัน โดยมีรถของฮอนด้าติดอยู่ใน 10 อันดับรถที่ได้รับความนิยมสูงสุดในเมืองไทยอยู่ถึง 7 รุ่นด้วยกัน ซึ่งฮอนด้าเองก็ยังไม่หยุดที่จะเดินแผนการกระตุ้นตลาดในช่วงฤดูมรสุมก่อนจาก ปิดไตรมาสที่สองของปีนี้ด้วยกิจกรรมที่ทำร่วมกับร้านผู้จำหน่าย โดยเฉพาะแคมเปญฮอนด้ามันส์เลือกได้...ว้าว! ที่เราเปิดโอกาสให้แฟนบอลของทีมแมนฯยูฯ ลิเวอร์พูล และบาร์เซโลน่า ได้ลุ้นตั๋วเข้าชมเกมการแข่งขันอย่างใกล้ชิดในฐานะที่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า เป็นผู้สนับสนุนการมาทัวร์เมืองไทยของทั้ง 3 ทีมอย่างเป็นทางการ เชื่อว่าจะได้รับการตอบสนองอย่างดีจากฐานลูกค้าทั่วประเทศ"
อนึ่ง แฟนบอลสามารถร่วมสนุกลุ้นตั๋วเข้าชมเกมการแข่งขันในเมืองไทยของสามทีมดัง ระดับโลกได้ฟรีๆ กับแคมเปญ "ฮอนด้า มันส์เลือกได้ ว้าว!" เพียงรับรหัสที่ร้าน Honda Wing Center แล้วพิมพ์รหัสพร้อมเลือกทีม M (แมนฯยูฯ), L (ลิเวอร์พูล) หรือ B (บาร์เซโลน่า) ส่ง SMS มาที่ 4221800 แล้วรอลุ้นบัตรเข้าชม จำนวนทีมละ 500 ที่นั่ง รวมทั้งสิ้น 1,500 ที่นั่ง โดยสามารถร่วมสนุกได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
สรุปยอดจดทะเบียนตลาดรถจักรยานยนต์ไทยเดือนพฤษภาคม 2556 พบว่ามีทั้งสิ้น 189,056 คัน แบ่งเป็นรถแบบครอบครัว 89,876 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 48%, รถแบบเอ.ที. 85,466 คัน ส่วนแบ่งตลาด 45%, รถแบบสปอร์ต 8,167 คัน ส่วนแบ่งตลาด 4% และรถแบบอื่นๆ รวมกันอีก 5,547 คัน ส่วนแบ่งตลาด 3%
เมื่อแบ่งตามค่ายผู้ผลิตพบว่าฮอนด้ามียอดจดทะเบียนรวมทั้งสิ้น 139,869 คัน สัดส่วนครองตลาด 74%, ยามาฮ่า 36,480 คัน ส่วนแบ่งตลาด 19%, ซูซูกิ 4,765 คัน ส่วนแบ่งตลาด 3%, คาวาซากิ 4,254 คัน ส่วนแบ่งตลาด 2% และยี่ห้ออื่นๆ ที่เหลือมียอดจดทะเบียนรวมกันที่ 3,688 คัน ส่วนแบ่งตลาด 2%


ทาทา มั่นใจเครื่องยนต์ใหม่ "ซีเอ็นจี พลัส" ทนทาน กล้าให้ประกันนานถึง 4 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร



ทาทา มอเตอร์ส ประเทศไทย มั่นใจคุณภาพความทนทาน เครื่องยนต์ใหม่ ซีเอ็นจี พลัสกล้าให้การรับประกันเครื่องยนต์นานถึง 4 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร พร้อมจัดเต็มฟรีค่าบำรุงรักษาทั้งค่าแรง ค่าอะไหล่ นาน 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร สำหรับลูกค้าที่ซื้อรถกระบะทาทา เครื่องยนต์ซีเอ็นจี พลัส ทุกรุ่น ภายในสิ้นเดือนกรกฎาคม 2556 นี้ 


บริษัท ทาทา มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด มอบข้อเสนอสุดแรง แสดงความมั่นใจในคุณภาพความทนทานของเครื่องยนต์ "ซีเอ็นจี พลัส" ใหม่ ในรถกระบะทาทาทุกรุ่น ด้วยข้อเสนอ "โกลด์ วารันตี" (Gold Warranty) ให้การรับประกันเครื่องยนต์ ซีเอ็นจี พลัส นานถึง 4 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร
ขณะเดียวกัน ยังมอบข้อเสนอพิเศษ สุดคุ้มค่าคุ้มราคาด้วยการรับประกันคุณภาพ ตัวรถกระบะทาทา 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร โดยไม่มีค่าใช้จ่ายด้านการบำรุงรักษา ทั้งค่าแรงและค่าอะไหล่อุปกรณ์ที่ต้องมีการเปลี่ยนถ่าย เช่น ไส้กรอง หัวเทียน น้ำมันเครื่อง หรือ น้ำมันหล่อลื่นต่างๆ ด้วย ซึ่งช่วยให้ลูกค้าของทาทาสามารถประหยัดค่าใช้จ่าย ในการบำรุงรักษาตลอดระยะเวลาในการรับประกัน 3 ปี
หรือ 100,000 กิโลเมตร ข้อเสนอนี้จะมอบให้กับลูกค้าของ ทาทา มอเตอร์ส ประเทศไทย ที่ซื้อรถกระบะทาทา ซีเอ็นจี พลัส ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงสิ้นเดือนกรกฎาคม 2556 โดยการรับประกันคุณภาพจะเริ่มต้นขึ้นนับตั้งแต่วันที่ส่งมอบรถ
"สำหรับการรับประกันคุณภาพเครื่องยนต์ ซีเอ็นจี พลัส นานถึง 4 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตรเรากล้ามอบข้อเสนอนี้ เพื่อแสดงให้ลูกค้าของเราเห็นถึงความมั่นใจในคุณภาพ ความแข็งแกร่งทนทานของเครื่องยนต์ใหม่ ซีเอ็นจี พลัสและเป็นการตอบแทนลูกค้าของเรา ที่ให้ความไว้วางใจในการใช้รถกระบะของเรา นอกจากนี้เรามีการรับประกันคุณภาพของตัวรถนาน 3 ปีหรือ 100,000 กิโลเมตร โดยไม่มีค่าแรงค่าอะไหล่ รวมทั้งอุปกรณ์เปลี่ยนถ่ายต่างๆ ตลอดเวลาระยะประกัน เป็นการช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา และช่วยให้เจ้าของกิจการที่ใช้รถกระบะเพื่อการพาณิชย์ของทาทา ใช้งานรถได้อย่างสบายใจ พร้อมลดต้นทุนในการดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจไปได้อีกมากซึ่งเป็นการเสริมแนว คิดของเรา ที่ต้องการผลิตรถยนต์มาตอบสนองการใช้งานได้อย่างคุ้มค่าคุ้มราคา ประหยัดค่าใช้จ่ายให้กับลูกค้าของเราให้ได้มากที่สุด " มร.ซานเจย์ มิชรา กรรมการผู้จัดการบริษัท ทาทา มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว
ขณะเดียวกัน มร.สเตฟาน กาล รองประธานฝ่ายบริการลูกค้า ทาทา มอเตอร์ส ประเทศไทย ยังกล่าวเสริมอีกว่า "ลูกค้าของเรา สามารถมั่นใจได้ในคุณภาพความทนทานของรถกระบะทาทา โดยเฉพาะเครื่องยนต์ซีเอ็นจี พลัส ใหม่ เราถึงกล้ามอบการรับประกันเครื่องยนต์ที่นานกว่ารถกระบะทั่วไป และกล้ารองรับค่าใช้จ่ายด้านการบำรุงรักษาและอะไหล่นานถึง 3 ปี นอกจากนี้ รถที่ใช้เครื่องยนต์ ซีเอ็นจี พลัส ใหม่
ทั้ง ทาทา ซีนอน ซีเอ็นจี พลัส เฮฟวี่ดิวตี้ และทาทา ซีนอน แม็กซ์ ซีเอ็นจี พลัส ยังมีโปรแกรมการตรวจเช็คตามระยะการใช้งานทุกๆ 7,500 กิโลเมตร แตกต่างจากรถซีเอ็นจีทั่วๆไป ที่มีการตรวจเช็คที่ระยะการใช้งานที่ประมาณ 5,000 กิโลเมตร ทั้งนี้เนื่องจากเรามั่นใจว่า ชิ้นส่วน อุปกรณ์ต่างๆ ในรถกระบะทาทานั้นมีความทนทานต่อการใช้งานในระยะเวลาที่ยาวนานกว่า ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าลดความถี่ที่จะต้องนำรถเข้ามายังศูนย์บริการ ทำให้ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายยิ่งขึ้น"


เชฟโรเลต เปิดแคมเปญส่งเสริมการขาย "เชฟวี่ แฮปปี้ ดีล"



รถเชฟโรเลต ทุกรุ่น รวมถึงโฉมใหม่ล่าสุด พร้อมให้ลูกค้าสัมผัสที่ผู้แทนจำหน่ายทั่วประเทศ
ส่งแคมเปญส่งเสริมการขายเพื่อเพิ่มจำนวนลูกค้าในการจับจองรถเชฟโรเลต 
 
แคมเปญครอบคลุมโคโลราโด เทรลเบลเซอร์ แคปติวา ครูซ และโซนิค
บริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัว 'เชฟวี่ แฮปปี้ ดีล' (CHEVY HAPPY DEAL) แคมเปญส่งเสริมการขายกลางปี มุ่งเพิ่มความสะดวกสบายและเพิ่มความง่ายดายให้แก่ลูกค้าในการจับจองรถเชฟโร เลต หลากหลายรุ่นทั่วประเทศ
ด้วยเสียงตอบรับที่ดีเยี่ยมของลูกค้าที่มีต่อโคโลราโด เทรลเบลเซอร์ และครูซ ทำให้เชฟโรเลต มอบแคมเปญส่งเสริมการขายสุดพิเศษในช่วงกลางปี เพิ่มเติมจากปกติทีมีเฉพาะช่วงไตรมาสที่สีของทุกปี โดยลูกค้าจะได้รับข้อเสนอพิเศษสำหรับรถรุ่นใหม่ ทั้ง รถซีดาน ครูซ 1.8 ลิตร E85 รถคอมแพ็กต์เอ็มพีวีอย่างสปิน และรถเอสยูวี เทรลเบลเซอร์ 2WD LTZ
"เราได้ปรับโฉมและแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างครอบคลุมในปีนี้ ไม่ว่าจะเป็นครูซ E85 สปินและเทรลเบลเซอร์ 2WD LTZ ยานยนต์ทุกรุ่นของเรามีความสดใหม่ เปี่ยมด้วยคุณภาพและที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือความพร้อมที่จะให้ลูกค้าได้ สัมผัสอย่างใกล้ชิดภายในศูนย์ผู้แทนจำหน่ายของเราทั่วประเทศ"
มร. กุสตาโว โคลอซซี รองประธานฝ่ายขาย การตลาดและบริการหลังการขาย ประจำประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัดและบริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว
"แคมเปญส่งเสริมการขายใหม่นี้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์เพื่อการเติบโตของ เรา รถเชฟโรเลต ใหม่ทุกรุ่นตั้งแต่โคโลราโด เทรลเบลเซอร์ ครูซ และโซนิค ล้วนได้รับเสียงตอบรับที่ดีเยี่ยม ลูกค้าให้ความสนใจในผลิตภัณฑ์ของเรา แคมเปญส่งเสริมการขายจึงได้รับการพัฒนาเพื่อเพิ่มความสะดวกง่ายดายในการจับ จองของลูกค้าเพื่อตอบสนองต่อเสียงตอบรับดังกล่าว ลูกค้าจะประทับใจในผลิตภัณฑ์ของเราเพิ่มมากขึ้น" มร.โคลอซซี กล่าว
สำหรับรายละเอียดของแคมเปญมีดังนี้
แคปติวา (ทุกรุ่นย่อย) และเทรลเบลเซอร์ (2.8LT 2WD A/T, 2.8LTZ1 2WD A/T, 2.8LT 4WD A/T, 2.8LTZ 4WD A/T และ 2.8LTZ1 4WD A/T): ดอกเบี้ย 0 เปอร์เซ็นต์ ที่ดาวน์ 25 เปอร์เซ็นต์ ผ่อนนาน 60 เดือน
ครูซ โฉมก่อนปี 2013: รับส่วนลด 100,000 บาท
ครูซ โฉมปี 2013: รับส่วนลด 25,000 บาท
โซนิค LT: ฟรีผ่อน 5 เดือน ที่ดาวน์ 25 เปอร์เซ็นต์ ผ่อนนาน 60 เดือน
โซนิค LTZ: ฟรีผ่อน 5 เดือน ที่ดาวน์ 25 เปอร์เซ็นต์ ผ่อนนาน 72 เดือน
โคโลราโด 2.5 ลิตร (รุ่น 4WD) และ 2.8 ลิตร (ทุกรุ่นย่อย): รับส่วนลด 40,000 บาท
แคมเปญส่งเสริมการขายมีผลทันทีที่ศูนย์ผู้แทนจำหน่ายเชฟโรเลต ทั่วประเทศจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2556. ท่านสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.chevrolet.co.th/
ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายประชาสัมพันธ์ สื่อสารผลิตภัณฑ์
บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด
บริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด
โทร. (สายตรง): +66 2791 4885
อีเมล์: vijo.varghese@gm.com
กมลพัชร ยะรังษี
เวเบอร์ แชนวิค
แมคแคน เวิลด์กรุ๊ป
โทร. +662 343 6179
อีเมล์: kamolpatch@webershandwick.com

วันพุธที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ทำความรู้จักเทคโนโลยีรถยนต์เพื่อความปลอดภัยใหม่ๆ ก่อนออกเดินทาง



ในทุกการเดินทาง ยิ่งโดยเฉพาะการเดินทางโดยรถยนต์ การตรวจสอบความปลอดภัยของรถยนต์ที่คุณขับขี่ถือว่าเป็นเรื่องจำเป็นอันดับ หนึ่งสำหรับผู้ใช้รถทุกคน นอกจากเพื่อความปลอดภัยของคนขับและเพื่อนร่วมทางแล้ว ยังเพื่อความปลอดภัยของคนเดินถนนด้วย เรื่องการตรวจสอบความปลอดภัยก่อนเดินทางโดยทั่วไปมีตั้งแต่ การตรวจเช็คความดันลมยาง ยางปัดน้ำฝน การทำงานของเบรกและไฟส่องสว่าง ไปจนถึงการตรวจเช็คระดับน้ำมันเบรก น้ำมันเกียร์ และน้ำมันพวงมาลัยในห้องเครื่อง ฯลฯ สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งจำเป็นที่ผู้ใช้รถต้องตรวจสอบทุกครั้งก่อนเดินทาง 


แต่ถ้าอยากได้ผู้ช่วย เรื่องความปลอดภัย ทุกวันนี้ผู้ผลิตรถยนต์เสนอทางเลือกใหม่ๆ ของเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยมาให้ผู้ใช้รถได้เลือกใช้กันอย่างเต็มที่ ตัวอย่างที่เด่นชัดที่สุดคงจะหนีไม่พ้นผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติสวีเดนอย่าง "วอลโว่" ที่ให้ความสำคัญกับเรื่องของความปลอดภัยมาตั้งแต่เริ่มต้นก่อตั้งแบรนด์ในปี ค.ศ.1927 เลยทีเดียว
อาจกล่าวได้ว่าวอลโว่เป็นหัวหอกในเรื่องของการคิดค้นเทคโนโลยีเพื่อความ ปลอดภัยในการขับขี่ใหม่ๆ ให้พวกเราผู้ใช้รถทั่วโลกได้รู้จักอยู่แล้ว เพราะหลายนวัตกรรมเพื่อความปลอดภัยที่เราเคยได้ยินกัน หลายคนอาจไม่รู้ว่าวอลโว่เป็นรายแรกทึ่คิดออกมาก่อนใครด้วยซ้ำ เช่นเข็มขัดนิรภัยที่รถยนต์ทุกคนทั่วโลกต้องมี วอลโว่ก็เป็นผู้ผลิตรถยนต์รายแรกที่คิดค้นขึ้น ซึ่งเทคโนโลยีต่างๆ ที่ช่วยสร้างความปลอดภัยให้กับผู้ใช้รถ วอลโว่เรียกรวมๆ ว่า "Collision Avoidance System" หรือระบบช่วยหลีกเลี่ยงการเกิดอุบัติเหตุจากการชนนั่นเอง เมื่อนำเทคโนโลยีเหล่านี้มารวมไว้ด้วยกัน รถยนต์วอลโว่จึงพรั่งพร้อมด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอย่างเต็มพิกัด
ตัวอย่างของนวัตกรรมเพื่อความปลอดภัยจากวอลโว่ก็อย่างเช่น ระบบตรวจจับคนเดินถนนและระบบเบรคอัตโนมัติแบบเต็มแรงเบรค (Pedestrian Detection) เทคโนโลยีแรกของโลกที่สามารถตรวจจับคนเดินถนนหน้ารถได้และช่วยเบรคให้อย่าง เต็มแรง เมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่รถอาจจะชนคนเดินถนน หากคุณต้องเดินทางผ่านถนนที่เต็มไปด้วยผู้คน หรือในที่ชุมชนที่มีคนอยู่เยอะ ก็สามารถเบาใจได้เมื่อมีระบบนี้อยู่
ระบบเตือนผู้ขับขี่ (Driver Alert Control) ในกรณีที่ขับรถไปนานๆ แล้วคนขับอาจเกิดอาหารเหนื่อยเมื่อยล้า ผู้ขับขี่อาจสูญเสียการควบคุมรถหรือมีสมาธิในการขับขี่น้อยเกินไป จนอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ ระบบจะส่งสัญญาณเสียงหรือข้อความหน้าจอเพื่อเตือนให้ผู้ขับขี่หยุดพัก เพื่อเป็นการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ ระบบเปิด/ปิดไฟสูงอัตโนมัติ ที่มีประโยชน์มากเมื่อคุณวิ่งไปบนถนน 2 เลนที่ไม่มีไฟถนน คุณจึงจำเป็นต้องเปิดไฟสูง ซึ่งระบบจะปรับไฟหน้าให้ลงมาเป็นไฟต่ำให้โดยอัตโนมัติเมื่อมีรถสวนมา รวมถึงระบบ Tunnel Detection ที่ไม่ใช่แค่ขับเข้าอุโมงค์ตามชื่อ แต่ระบบจะเปิดไฟหน้าให้อัตโนมัติเมื่อคุณขับเข้าไปในที่มืด คุณจึงขับขี่ได้อย่างปลอดภัยในทุกเส้นทาง ฯลฯ
เทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยเหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของระบบความปลอดภัย ที่วอลโว่คิดค้นขึ้นมาเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนน แต่ส่วนที่สำคัญกว่าก็คือ ตัวผู้ใช้รถเองที่จะต้องขับขี่อย่างไม่ประมาท และไม่หวังพึ่งเทคโนโลยีแต่เพียงอย่างเดียว เพราะนั่นคือหนทางสู่ความปลอดภัยสูงสุดไม่ว่าคุณจะเดินทางไปที่ไหน
ติดต่อ:
ทัศนันท์ อากรชี
โทร. 0 2205 6607, 08 1347 3647
อีเมล์ tatsanun.agornchee@ogilvy.com

วันศุกร์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2556

กรมศุลฯจ้องขยับราคากลางรถนำเข้า ดีเดย์เปิดประมูลรถหรูเลี่ยงภาษีก.ค.นี้





"กรมศุลฯ" เข้มกวดขันรถนำเข้า แย้มเตรียมปรับราคากลางเพิ่มอีกระลอก เหตุราคากลางยังต่ำกว่าความเป็นจริง ย้ำไม่ได้กีดกันธุรกิจ พร้อมเปิดประมูลรถนำเข้าเลี่ยงภาษี ก.ค.นี้

นายราฆพ ศรีศุภอรรถ รองอธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับกรณีความเข้มงวดในการตรวจสอบรถนำเข้าว่า จากกรณีที่ภาครัฐที่กำหนดให้การนำเข้ารถยนต์จากต่างประเทศ ตามพระราชกฤษฎีกาในการจดทะเบียนรถยนต์ ที่รถนำเข้าจากต่างประเทศจะต้องผ่านขั้นตอนในการตรวจค่าไอเสียจากสำนักงาน มาตรฐานอุตสาหกรรม (สมอ.) ก่อนจึงจะนำรถไปจะทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกได้นั้น ทำให้ปัจจุบันยอดนำเข้ารถยนต์ในไตรมาสแรกของปีนี้ลดเหลือเพียง 5% เท่านั้น เมื่อเทียบกับช่วงระยะเวลาก่อนหน้านี้ในปี 2553-2554 ที่ยังไม่ได้มีมาตรการเหล่านี้ออกมา

โดย ในปีที่ผ่านมาจำนวนรถยนต์นำเข้าจากเกรย์มาร์เก็ตอยู่ที่ 12,936 คัน หรือคิดเป็นมูลค่า 22,037 ล้านบาท ซึ่งการที่ยอดนำเข้ารถยนต์จากต่างประเทศลดลงนั้นก็ส่งผลกระทบต่อรายได้ของ ประเทศ แต่ภาครัฐก็จะเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บภาษีสินค้าทุกชนิดมากขึ้น

สำหรับ รถยนต์ที่ยังคงอยู่ที่ท่าเรือนั้น ขณะนี้ก็มีรถนำเข้าค้างอยู่ที่ท่าเรือกว่า 1,000 คัน เป็นเวลากว่า 6 เดือนแล้ว ทางกรมศุลลากรมองว่าผู้ประกอบการก็ต้องประสานงานไปยังสำนักงานมาตรฐาน อุตสาหกรรมเพื่อยื่นเรื่องขอรับการตรวจสอบ จากนั้นกรมศุลกากรจึงจะสามารถตรวจปล่อยรถเพื่อนำไปตรวจสอบค่าไอเสียได้ ซึ่งเมื่อผู้ประกอบการสามารถประสานงานไปยัง สมอ.ได้แล้ว ทางกรมศุลกากรก็มีความยินดีที่จะให้ความร่วมมือในการตรวจปล่อยรถอย่างเต็ม ที่ ก่อนหน้านี้ภาครัฐก็ได้อำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการในหลายด้าน ทั้งการอนุโลมสำหรับรถที่นำเข้าหลังวันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ที่ออกจากท่าเรือแล้ว แต่ยังไม่ได้จดทะเบียน ให้ไม่ต้องนำรถเข้ามาตรวจสอบ รวมถึงลดค่าใช้จ่ายการทดสอบค่ามลพิษรถยนต์เบนซิน จากเดิมคันละ 120,000 บาท เหลือ 44,000 บาท ส่วนรถยนต์ดีเซลคิดค่าทดสอบในอัตราเดิมที่ 40,000 บาท

ซึ่ง แม้จะมีการผ่อนปรนในบางเรื่อง แต่ก็ยังคงเพิ่มความเข้มงวดด้านการกำหนดราคากลาง จากก่อนหน้านี้ได้มีการทยอยปรับราคากลางในการนำเข้ารถยนต์เพิ่มขึ้นในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ราว 4-5 ครั้ง ปรับครั้งละประมาณ 10% ทำให้ราคากลางเพิ่มขึ้นราว 50% เนื่องจากที่ผ่านมามีผู้ประกอบการบางรายที่แจ้งราคารถต่ำกว่าความเป็นจริง และในปีนี้ทางสำนักมาตรฐานราคายังคงต้องตรวจสอบราคาที่ถูกต้อง และทำให้ในปีนี้น่าจะมีการปรับราคากลางขึ้นอีกครั้งหนึ่ง แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะปรับขึ้นในช่วงใด เนื่องจากยังอยู่ในขั้นตอนของการพิจารณา

"เวลานี้ภาษีที่เราจัดเก็บ ได้ต่ำกว่าที่คาดไว้นิดหน่อย เนื่องจากจำนวนรถนำเข้าที่หายไป จากที่ผ่านมาผู้ประกอบการไม่ได้นำรถเข้าไปตรวจสอบที่ สมอ. อาจจะเพราะเป็นต้นทุนที่เพิ่มขึ้น แต่ขั้นตอนการนำเข้าก็ต้องมีความถูกต้องด้วย หน่วยงานภาครัฐเรามีการพุดคุยกันตลอดเพื่อทำให้ธุรกิจเดินต่อไปได้ เราก็อยากอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการอยู่แล้ว" นายราฆพกล่าว

การ ที่กรมศุลกากรได้ร่วมกับหน่วยงานอื่น ๆ กวดขันในด้านการตรวจสอบนั้น ไม่ใช่เพื่อเป็นการปิดกั้นการทำธุรกิจของผู้ประกอบการแต่ต้องการสร้าง มาตรฐาน ทำให้ผู้ประกอบการบางรายที่นำเข้าอย่างไม่ถูกวิธี หรือไม่รับผิดชอบรถของลูกค้านั้นไม่สามารถดำเนินธุรกิจต่อได้ ส่วนผู้ที่ดำเนินการตามขั้นตอนนั้นก็จะสามารถทำธุรกิจต่อไปได้ ซึ่งก็ต้องมีการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค ด้วยการจำหน่ายสินค้าในราคาที่ถูกต้อง และต้องมีการพัฒนาคุณภาพด้านต่าง ๆ มากขึ้น

ล่าสุดทางกรมศุลกากรได้ตกลงเซ็นสัญญากับบริษัทสหการประมูล ในการให้สหการประมูลเป็นผู้ดำเนินการประมูลขายทอดตลาดรถยนต์ ของกลางที่ถูกลักลอบนำเข้าประเทศโดยเลี่ยงการเสียภาษี ประจำปีงบประมาณ 2556-2557 จำนวนประมาณ 300 คัน ซึ่งมีทั้งรถยนต์หรูและรถยนต์ทั่วไป โดยรถยนต์หรูมีสัดส่วนราว 5% จากจำนวนรถทั้งหมด ที่จะเปิดประมูลในวันที่ 17 กรกฎาคมนี้ และจะเปิดโอกาสให้ประชาชนที่สนใจประมูลสามารถเข้ามาดูรถได้ในวันที่ 15-16 กรกฎาคม โดยจะมีเจ้าหน้าที่ของสหการประมูลคอยให้ข้อมูลและคำแนะนำในการประมูลรถ รวมถึงผู้ที่สนใจก็สามารถลงทะเบียนประมูลผ่านทางเว็บไซต์ หรือใช้บริการ โมบาย บิด ได้คาดว่าการเปิดประมูลครั้งนี้จะสามารถสร้างรายได้ให้กับภาครัฐราว 300 ล้านบาท

ภาพแรกเผยออกมาแล้ว Toyota Corolla โฉมใหม่




เห็นหน้าตาแบบบางส่วน จากการเปิดเผยยั่วใจของทางโตโยต้ามานานหลายสัปดาห์ ในตอนนี้ “โคโรลล่า ใหม่” รถยนต์คอมแพ็กต์ยอดนิยมของโตโยต้าได้เผยโฉมออกมาแล้ว พร้อมการพลิกหน้าตาในแบบโมเดลเชนจ์ที่สปอร์ตขึ้น ดุดันขึ้นจากรุ่นที่ขายอยู่ในปัจจุบัน

การเปิดตัวของโคโรลล่าใหม่มีขึ้นในสหรัฐอเมริกา ซึ่ง ณ ปัจจุบันถือเป็นตลาดใหญ่อีกแห่งของ โคโรลล่า หากไม่นับเมืองจีน โดยภาพที่เห็นอยู่นี้ถูกนำออกแเผยแพร่ ก่อนที่การเปิดตัวจะเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ 1 ทุ่มตามเวลาที่ลอสแองเจลีส ซึ่งจากภาพที่เห็นอยู่นี้จะพบกับความเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน โดยเฉพาะงานออกแบบ ซึ่งอ้างอิงมาจากรถยนต์ต้นแบบ Furia ที่เปิดตัวในดีทรอยต์ ผสมผสานกับ Yundong Shuangqing II ที่เปิดตัวในเซี่ยงไฮ้
      
       อย่างไรก็ตาม ที่เปิดเผยออกมามีแค่ภาพ 3 ชุด ส่วนรายละเอียดยังไม่มีการเปิดเผย แต่ข่าวบางสำนักก็ระบุว่า โคโรลล่า ใหม่จะมีระยะฐานล้อเพิ่มขึ้นจากเดิมเกือบๆ 100 มิลลิเมตร และความยาวก็เพิ่มขึ้นกว่า 100 มิลลิเมตรด้วยเช่นกัน โดยที่เครื่องยนต์จะมี 2 แบบคือ 4 สูบ 1,800 ซีซี 132 แรงม้า และรุ่น LE Eco ซึ่งไม่เปิดเผยว่าอิงพื้นฐานจากบล็อกไหน แต่มีกำลังอยู่ในระดับ 140 แรงม้า
      
       แต่ทั้งนี้นี่เป็นรายละเอียดที่ยังไม่มีการอ้างอิงอย่างเป็นทางการ ถ้ามีความคืบหน้าอะไรเพิ่มเติม ทางทีมข่าว “ASTV ผู้จัดการมอเตอริง” จะรีบนำเสนอให้รับทราบ
      
       ด่วน!... อ่าน รายละเอียดข้อมูล โตโยต้า โคโรลล่า โฉมใหม่ และดูรูปภาพล่าสุดเป็นทางการโดยโตโยต้า ที่นี่... http://www.manager.co.th/Motoring/viewNews.aspx?NewsID=9560000068711

‘มาสด้า’แจงส่งมอบรถคันแรกร้อยละ 70 ไม่ใช่ทิ้งจอง



“มาสด้า” เพิ่งตื่นแจงข่าว หลังสื่อบางฉบับสัมภาษณ์ผู้บริหาร ระบุลูกค้าทิ้งรับรถคันแรก 70% ยันเป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อน ตัวเลขจริงส่งมอบรถแล้ว 70% รอส่งมอบอีก 10% และ 20% อยู่ระหว่างติดตาม เผยยกเลิกรับรถ 10-20% เป็นปกติธุรกิจเหตุมีปัญหาไฟแนนซ์


รานงานข่าวจากบริษัท มาสด้าเซลส์(ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ตามที่ได้ปรากฏข่าวในหนังสือพิมพ์บางฉบับว่า ลูกค้าผู้ซื้อรถยนต์ยี่ห้อ “MAZDA” ที่เข้าร่วมโครงการรถยนต์คันแรกของรัฐบาลได้ปฏิเสธการรับร้อยละ 70 จากจำนวนยอดจองรถมาสด้าในโครงการทั้งหมด อันก่อให้เกิดความสับสนต่อสาธารณชน และต่อภาพลักษณ์ของบริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์มาสด้า ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ
      
       เพื่อขอยืนยันข้อมูลนั้น บริษัทฯ ขอเรียนชี้แจงว่า ข้อความที่ปรากฏดังกล่าว เป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนของสื่อมวลชน
       และมีความแตกต่างจากข้อมูลที่ได้รับจากผู้บริหารของบริษัทฯ ดังนั้นบริษัทฯ มีความยินดีให้ข้อมูลล่าสุดหลังจากปิดยอดจำหน่ายในเดือนพฤษภาคม ดังนี้
       - มีการรับรถของลูกค้าผู้ขอใช้สิทธิรถคันแรกแล้วกว่าร้อยละ 70
       - จะมีการส่งมอบให้กับลูกค้าในอีก 1-2 เดือนข้างหน้า ประมาณร้อยละ 10
       - อยู่ระหว่างการติดต่อลูกค้าเพื่อยืนยันเวลาในการรับรถเป็นจำนวนประมาณร้อยละ 20 เนื่องจากรัฐบาลเปิดโอกาสให้ประชาชนสามารถขอใช้สิทธิได้โดยไม่ได้กำหนดเวลา ดังนั้น ลูกค้าจึงอยู่ระหว่างการพิจารณาความพร้อมที่จะรับรถ ในประเด็นต่างๆ อาทิ ช่วงเวลาที่เหมาะสม การเงิน และอื่นๆ
      
       อนึ่งโดยปกติของธุรกิจการยกเลิกการรับรถ จะมีอัตราเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณร้อยละ 10-20 อันมีปัจจัยหลักเรื่องข้อจำกัดด้านการเงิน (Finance) ของลูกค้า

เครื่องยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี ..ยอดขุมพลังชั้นนำ




เมื่อพูดถึงรถยนต์ที่วางจำหน่ายอย่างมากมายในปัจจุบัน เราคงไม่มีอะไรที่เราจะสนใจมากไปกกว่าการออกแบบ และรองลงมานัน คือเครื่องยนต์ ที่สถิตในรถยนต์รุ่นต่างๆ ซึ่งล้วนแต่มีลักษณะเหมือนกัน แต่ เคยสงสัยไหมว่า เราได้ใช้มันอันที่ดีที่สุดแล้วหรือยัง
เครื่องยนต์คือพระเอกของรถจนกลายเป็นเวทีการแข่งขันที่สำคัญ กับรางวัล  International Engine of the year award 2013  ที่สืบทอดต่อกันมากยาวนาน และล่าสุดในปีนี้ ก็มีเครื่องยนต์ มากหน้าหลายตาออกมา แต่เครื่องยนต์ไหนจะเวิร์คที่สุด เรามาดูกัน เลยดีกว่า
รางวัลเครื่องยนต์ยอดเยี่ยมขนาด 4.0 ลิตร ขึ้นไป
งานนี้เริ่มต้นเครื่องยนต์ไม่ว่าใครก็คงต้องนึถึงเครื่องยนต์ที่มีความ แรง และเครื่องยนต์ที่มีความแรงและดีโดยส่วนใหญ่จะเป็นเครื่องยนต์ขนาด 4.0 ลิตร ขึ้น ไป ซึ่งในปีนี้ ขุมพลังยอดเยี่ยมในกลุ่มนี้ตกเป็นของเครื่องยนต์จากค่ายม้าลำพอง  Ferrari V12 6.3  ลิตร ที่อยู่ใน Ferrari F12 Berlinetta  ใหม่ ตัวแรงลำล่าสุดจากสำนักนี้ โดยกวาดแต้มไปกว่า 270 คะแนน เหนือที่สอง ซึ่งเป็นเครื่องยนต์จากบล็อกสำนักเดียวกัน  V8 4.5  ลิตร ที่อยู่ใน Ferrari 458 Italia


รางวัลเครื่องยนต์ยอดเยี่ยมขนาด 3.0-  4.0 ลิตร
ลดขนาดลงมาแต่สมรรถนะยังคงเร้าใจก็ไม่น่าจะมีเครื่องยนต์อะไรที่มากไป กว่าเครื่องยนต์ในกลุ้มนี้ ซ฿ง ลดดีกรีร้อนแต่ยังทรงพลัง โดยขุมพลังชนะเลิศในกลุ่มนี้ ตกเป็นของ ค่ายรถยนต์จากแดนผู้ดี  Mclaren   ที่จับเครื่องยนต์จาก Mclaren MP4-12C เข้ามาประชัน โดยเครื่องยนต์ V8  ขนาด 3.8  ลิตร กลายเป็นดาวเด่นในกลุ่มนี้ ไปโดยปริยาย ชนะใสๆ ด้วยแต้มกว่า  333 แต้ม

รางวัลเครื่องยนต์ยอดเยี่ยมขนาด 2.5 – 3.0  ลิตร   
ในกลุ่มนี้ เครื่องยนต์สมรรถนะสูงที่อยุ่ในสปอร์ต ยังคงเป็นหลักเช่นเดิม และในครั้งนี้ เครื่องยนต์ที่มีขนาดเล็กลงก็มักจะอัดแน่นสมรรถนะด้วยระบบอัดอากาศ ในรถยนต์มากมายหลายรุ่น แต่ที่โดนใจคณะกรรมการสุดคงไม่มีอะไรมากไปกว่าเครื่องยนต์ Porsche 2.7 DI  ซึ่งแม้จะเล็กแต่ก็เร้าใจและยังปล่อยไอเสียต่ำเพียง 180 กรัม /กิโลเมตร

รางวัลเครื่องยนต์ยอดเยี่ยมขนาด 2.0-2.5  ลิตร
กลุ่มบล็อกกลางปีนี้ ที่ยังคงความน่าสนใจ จนต้องยกว่าเป็นเครื่องยนต์ยอดเยี่ยมนั้น ก็ยังไม่พ้นเครื่องยนต์จากค่ายหน้าเป็นห่วงAudi   ที่ทำเครื่องยนต์ 5  สูบ ใน Audi TT ยังคงติดอันดับเหมือนเคย กับ ขุมพลัง 5 สูบ  2.5  ลิตร พร้อมระบบเทอร์โบชาร์จ ซึ่งให้กำลังความแรงใน Audi TT
แม้ว่าเครื่องยนต์จาก Audi  จะมีความน่าสนใจไม่น้อย แต่เรื่องที่ดูแล้วโดยยิ่งหว่าคือในอันดับทรี่สอง ที่ไล่ตามมาติดๆ  ขุมพลัง  Mazda Sky Activ  2.2  ดีเซล ที่สำคัญ ค่ายรถยนต์  Zoom –Zoom  ยัง คงติดในอันดับนี้ใน SkyActiv G  2.5  ลิตร ด้วย

รางวัลยอดเยี่ยมเครื่องยนต์ขนาด 1.8 2.0 ลิตร
ถัดลงมาเป็นกลุ่มที่เราคุ้นเคยในบรรดารถยนต์คอมแพ้คคคาร์ กับเครื่องยนต์ บล็อกกลางๆ เช่นกัน โดยที่ครองแชมป์ปีนี้ คือเครื่องยนต์จากค่ายรถยนต์ตราพัดฟ้า ที่ถ่ายทอดความแรงสมรรถนะ ความประหยัด ออกมาในขุมพลังบล็อก 2.0 ลิรตร ที่อยู่ในรถยนต์ของค่ายมากมาย ในขณะที่มันยังมาพร้อมกับการรักษาสิ่งแวดล้อมที่ดูแล้วโดนใจไม่แพ้กัน
ถึงแม้เครื่องยนต์จากค่ายตราพัดฟ้าจะน่าสนใจ แต่ที่จะมาบ้านเราเร็วๆนี้ คงไม่พ้น  Mazda Sky Activ G  2.0 ลิตร ที่รั้งเข้ามาในอันดับ ที่ 4  แต่แม้จะมาเกือบตกอันดับ มันก็ยังเป็นเครื่องยนต์ยอดเยี่ยม

รางวัลเครื่องยนต์ยอดเยี่ยม ขนาด 1.4 – 1.8  ลิตร
เริ่มเล็กลงมาตามลำดับ ในกลุ่มนี้ ขุมพลังที่ยอดเยีย่มที่สุดอยู่ในรถยนต์ที่หลายคนชื่นชอบ และมันคือ บล็อกเครื่องยนต์ 1.6  ลิตร เทอร์โบ ที่โดยมากมันสถิตอยู่ในเจ้าตัวเล็ก  Mini  โดยความที่มันมีสมรรถนะที่ดี ประหยัดน้ำมันที่ลงตัวก็เลยไม่น่าแปลกที่จะครองใจกรรมการ

รางวัลเครื่องยนต์ยอดเยี่ยมขนาด 1.0-1.4  ลิตร
จะมีใครเกินหน้าเกินตาไปกว่าเจ้าตลาดอย่าง Volkswagen  และแม้จะผ่านมาหลายปี แต่ที่วางจำหน่ายและยังคงโดดเด่นก็ไม่พ้นเครื่องยนต์ 1.4  ลิตร TSI Twincharged  ที่จัดจ้านด้วยกำลังและสมรรถนะความประหยัดที่อยู่ในรถยนต์หลายรุ่นจากค่าย นี้ ตั้งแต่รถสปอร์ตยันรถอเนกประสงค์ชั้นนำ และสมรรถนะของมันไม่ด้ย่อหย่อนกว่ารถยนต์รุ่นใหญ่

รางวัลเครื่องยนต์ยอดเยี่ยมขนาดต่ำกว่า 1.0 ลิตร
ในกลุ่มนี้เมื่อพูดถึงแล้ว เราคงพอจะเดาได้ เพราะไม่มีเครื่องยนต์บล็อกไหน เจ๋งมากไปกว่า เครื่องยนตืจากค่ายตราวงรีสีน้ำเงิน กับ  Ford Ecoboost 1.0 ลิตร ที่พัฒนากันมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน และมันจะมาอยู่ในว่าที่ Ford Fiesta  ใหม่ ที่จะวางจำหน่ายในบ้านเราในอีกไม่ช้านี้

Best Performance Engine  
ปีนี้ตกเป็นของ ค่าย  Ferrari กับเจ้าขุมพลังบล็อกเครื่องยนต์ V12  ขนาด  6.3  ลิตร ที่อยู่ใน  Ferrari Berlinetta  ซึ่งค่ายม้าลำพองสามารถคว้าไปได้ทั้งสองอันดับ โดยบล็อกที่แรงดีไม่มีย้วยรองลงมาคือ เครื่องยนต์ V8  ใน  Ferrari 458 นั่นเอง

Best Green Engine

ปีนี้กลุ่มเครื่องยนต์พลังเขียว มาพร้อมเครื่องยนต์มากหน้าหลายตา หลังจากปีที่แล้วมีข้อกังขาไปแล้ว โดยในปีที่ผ่านมา ที่ดีที่สุดเป็นเครื่องยนต์น้องเล็กจากค่าย Fait  ที่สถิตในรถยนต์  Fiat Panda  รองลงมาคือเครื่องยนต์จากค่ายรถยนต์  GM  กับเครื่องยนต์  1.4  ลิตร พร้อมระบบไฟฟ้าช่วยยืดระยะทาง รองลงมาที่เราคุ้นเคยคือคือ  Ford Ecoboost 1.0 ลิตร แต่ทีเด็ดสุดนั้น อยู่ที่  Mazda Skyactiv –D 2.2 ลิตร ที่เข้ามารั้งในอันดับที่ 4
 
Best New Engine
ในปีนี้หน้าใหม่มาแรงก็ชัดเจนมากว่า คงไม่มีเครื่องยนต์อะไรที่น่าสนใจมากไปกว่า ขุมพลังจากบล็อกเครื่องยนต์ของค่าย Volkswagen  ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.4  ลิตร ใน Volkswagen Golf   ที่น่าสนใจคือมันเฉือนเจ้าเครื่องยนต์บล็อกโตใน Ferrari Berlinetta  ไปเพียงไม่กี่แต้มเท่านั้น

Best International engine of the year
ในที่สุดก็มาถึงรางวัลอันทรงเกียรติกับเครื่องยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี 2013 และ รางวัลนั้นตกเป็น ของ  Ford Ecoboost 1.0 ที้ให้ทั้งสมรรถนะ และความประหยัดที่น่าประทับใจรองลงมาเป็นเครื่องยนต์จาก Volkswagen  ที่เชืดเฉือนในโค้งสุดท้ายกับ Volkswagen 1.4 TSI twincharged
ส่วนอันดับสามเครื่องยนต์ยอดเยี่ยมในปีนี้ เป้นของเครื่องยนต์จากค่ายรถยนต์ตราพัดฟ้า BMW  ขนาด 2.0 ลิตร เทอร์โบคู่ ที่โด่งดัง และอยู่ในรถยนต์มากมายหลากหลายรุ่น

การตัดสินเครื่องยนต์ยอดเยี่ยมประจำปีนี้ คะแนนทั้งหมดตั้สินโดยกรรมการจากผู้สื่อข่าวสายยานยนต์กว่า 87 ชีวิต จาก 35  ประเทศที่ส่งคะแนนเข้ามา ส่วนปีนี้เราคงต้องขอแสดงความยินดีกับ ค่ายรถยนต์  Ford  ที่ชนะไปกับเครื่องยนต์  Ford Ecoboost 1.0   


เรื่องโดย ณัฐยศ ชูบรรจง










ฟอร์ดพาทำความดีพร้อมสัมผัสสมรรถนะอันแข็งแกร่งของฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ กับกิจกรรม "Good Deeds Good Day with All-New Ford Ranger"



เมื่อเร็ว ๆ นี้ ฟอร์ด ประเทศไทย จัดกิจกรรมทำดีเพื่อสังคมกับฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ("Good Deeds Good Day with the All-New Ford Ranger") โดยได้นำสื่อมวลชนเดินทางสู่จังหวัดสุโขทัย โดยใช้สมรรถนะฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ เกียร์ธรรมดา 6 สปีด อย่างเต็มที่เพื่อร่วมกันปรับปรุงโรงเรียนบ้านห้วยหยวก ให้มีสภาพแวดล้อมที่ดี เหมาะสมต่อการเรียนรู้ของเด็กนักเรียน 


เมื่อเดินทางถึงจ. สุโขทัย สื่อมวลชนได้สัมผัสกับรถฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ พร้อมห้องโดยสารที่ออกแบบมาอย่างกว้างขวาง แต่ให้ความรู้สึกแกร่งและทนทานต่อการใช้งานหนักๆ กิจกรรมครั้งนี้ฟอร์ด ประเทศไทย ได้นำฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ทั้งรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน ทีไอวีซีที 2.5 ลิตร ใหม่ พร้อมเกียร์ธรรมดาแบบ 5 สปีด และเครื่องยนต์ดูราทอร์ค ทีดีซีไอ เทอร์โบ ดีเซล คอมมอนเรล ขนาด 2.2 ลิตร ใหม่ พร้อมเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ที่ประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 19.47 กิโลเมตรต่อลิตร
หลังจากนั้น ได้ร่วมกันพัฒนาโรงเรียนโดยการปรับปรุงอาคาร และอุปกรณ์ต่างๆ ร่วมทั้งมอบทุนการศึกษาและอุปกรณ์เพื่อการศึกษา โดยนายกิตติวุฒิ ชัยรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โชคชัย ซีซีเอ็ม จำกัด เจ้าของศูนย์บริการ ฟอร์ด โชคชัย สุโขทัย ได้ร่วมในกิจกรรมครั้งนี้ ทั้งนี้นายกิตติวุฒิ ได้ดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่องภายใต้โครงการสานฝัน ในปีนี้นายกิตติวุฒิเป็นหนึ่งในเจ้าของศูนย์บริการฟอร์ดที่ได้รับรางวัล ระดับโลกของฟอร์ดเกี่ยวกับกิจกรรมเพื่อสังคม เนื่องจากเป็นผู้ที่ปฏิบัติกิจกรรมเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่องและทุ่มเท รวมถึงการนำพนักงานในศูนย์บริการให้มีส่วนร่วมในกิจกรรมด้วย
"ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของสังคม ฟอร์ดมีความมุ่งมั่นในการทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์เพื่อตอบแทนสังคมมาอย่าง ต่อเนื่อง" น.ส. ธิดายุทธ์ นพเกตุ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร ฟอร์ด ประเทศไทย กล่าว"เราหวังว่าสิ่งที่เราได้มอบให้เด็กๆ ที่โรงเรียนบ้านห้วยหยวกในวันนี้ จะเป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วยให้เด็กๆ พัฒนาตนเองได้อย่างเต็มศักยภาพ"

วันพฤหัสบดีที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ซิตี้ ออโต้โมบิล มอบบริการตรวจเช็ครถแลนด์โรเวอร์ ฟรี!! ตลอดเดือนมิถุนายน 2556 นี้



ลูกค้าสามารถเข้ารับบริการได้ที่ศูนย์บริการ สาขาถนนวิทยุ และ สาขาพระราม 3

บริษัท ซิตี้ ออโต้โมบิล จำกัด ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์จากัวร์และแลนด์โรเวอร์อย่างเป็นทางการในประเทศไทย มอบบริการตรวจเช็คช่วงล่างและระบบกันสะเทือนด้วยมาตรฐานระดับพรีเมี่ยม ฟรี สำหรับรถยนต์แลนด์โรเวอร์ทุกรุ่น ตลอดเดือนมิถุนายน 2556 โดยรายการตรวจเช็คประกอบด้วย การตรวจสภาพยางและตรวจเช็คศูนย์ล้อ การตรวจสอบความสึกหรอใต้ท้องรถและชิ้นส่วนประกอบ ตลอดจนการวิเคราะห์ระบบกันสะเทือนไฟฟ้าด้วยอุปกรณ์ต่อพ่วงกล่องอีซียู (Electronic Control Unit - ECU) อันทันสมัยของ ซิตี้ ออโต้โมบิล เพื่อให้ท่านเจ้าของรถมั่นใจสูงสุดในการขับขี่รถยนต์อย่างเต็มประสิทธิภาพ ยืดระยะเวลาซ่อมบำรุง ประหยัดเชื้อเพลงและลดการสึกหรอของยาง ตลอดจนช่วยรักษามูลค่ารถในระยะยาวทีมช่างผู้ชำนาญของซิตี้ ออโต้โมบิล พร้อมให้คำแนะนำแก่ท่านเจ้าของรถแลนด์โรเวอร์หากมีรายการซ่อมบำรุงเพิ่มเติม พร้อมทั้งมอบสิทธิ์ส่วนลดอะไหล่ 10% ในกรณียอดชำระรวมเกิน 20,000 บาท(ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

นายดนัย จันทรงาม ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ซิตี้ ออโต้โมบิล จำกัด กล่าวว่า "เรายินดีมอบโปรโมชั่นพิเศษนี้แก่ลูกค้าแลนด์โรเวอร์ตลอดเดือนมิถุนายน ด้วยการตรวจเช็คช่วงล่างและระบบกันสะเทือนฟรี พร้อมมอบส่วนลดค่าอะไหล่ 10% เพื่อให้ท่านเจ้าของรถสามารถขับขี่รถยนต์แลนด์โรเวอร์ได้อย่างเต็มสมรรถนะ นอกเหนือจากศูนย์บริการซิตี้ออโต้โมบิลสาขาถนนวิทยุ เราขอนำเสนอศูนย์บริการที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ สาขาพระราม 3 ซึ่งพร้อมให้บริการแก่ท่านแล้วในขณะนี้ โดยศูนย์บริการทั้งสองแห่งเพียบพร้อมด้วยมาตรฐานการซ่อมบำรุงระดับพรีเมี่ยม และการบริการจากช่างผู้ชำนาญที่ผ่านการฝึกอบรมจากศูนย์แลนด์โรเวอร์"

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อฝ่ายบริการ บริษัท ซิตี้ ออโต้โมบิล จำกัด ศูนย์บริการสาขาถนนวิทยุ โทรศัพท์ 02 651 4545 ต่อ 131 และ สาขาพระราม 3 (เลขที่ 507/581 ถนนสาธุประดิษฐ์ แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา) โทรศัพท์ 02 674 3600 ต่อ 101 หรือดข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.landroverthailand.com
สำหรับสื่อมวลชน หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
พิชญ์สินี อัศวอดิเรกกูล (ปูเป้) ภัทรนิษฐ์ อิ่มอำไภย (ปุ้ม)
Senior PR Executive PR Director Vivaldi Public Relations Vivaldi Public Relations
โทรศัพท์: 0-2612-2253 ต่อ 106 โทรศัพท์: 0-2612-2253 ต่อ 107
แฟกซ์: 0-2612-2254 แฟกซ์: 0-2612-2254
อีเมล์:pattranit.i@vivaldipr.com อีเมล์: pishsinee.a@vivaldipr.com
เว็บไซต์: www.vivaldipr.com

ซิกเนเจอร์ คาร์ส เอาใจคนรักรถหรู ระดับพรีเมี่ยม ด้วยข้อเสนอสุดพิเศษในกิจกรรมโรดโชว์ที่เซ็นทรัลพลาซ่า พระราม 9 วันที่11-18 มิถุนายนนี้



บริษัทซิกเนเจอร์ คาร์ส จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์แบรนด์ดังระดับโลกจากต่างประเทศ ที่มีโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการมาตรฐานที่ใหญ่ที่สุดในพื้นที่เขตธนบุรี จัดกิจกรรมโรดโชว์ที่ห้างเซ็นทรัลพลาซ่า พระราม 9 ตั้งแต่วันที่ 11 - 18 มิถุนายน 2556 พร้อมทั้งปล่อยข้อเสนอสุดพิเศษเอาใจสาวกคนรักรถหรู ระดับพรีเมี่ยม

นายชวินทร์ อมเรศ รองประธานบริษัท ซิกเนเจอร์ คาร์ส จำกัด เปิดเผยว่าไฮไลต์ของงานครั้งนี้ คือรถเบนซ์ The New E-Class Saloon Facelift Avangarde มาพร้อมรูปลักษณ์ดีไซน์ใหม่ทั้งภายนอกและภายในที่ดูสปอร์ตขึ้น พร้อมเครื่องยนต์เบนซินใหม่ ราคา 3,650,000 บาท และอีกรุ่นคือโตโยต้า New Estima 2.4 AERAS Premium Edition รุ่นใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมรูปลักษณ์ภายนอกโฉมใหม่ รวมถึงการออกแบบให้ตัวรถมีความหรูหรามากขึ้นในทุกมุมมอง พร้อมด้วยอุปกรณ์ชุดแต่งรอบคัน ราคา 2,790,000 บาท

ภายในงานลูกค้าจะได้พบกันรถยนต์หลากหลายรุ่นที่มีให้เลือกตามความเหมาะสมในการใช้งาน รวมถึงรับข้อเสนอสุดพิเศษที่ลูกค้าจะต้องพึงพอใจ เมื่อลูกค้าจองรถในงาน สามารถรับรถได้ทันที ที่สำคัญหากซื้อรถไปแล้ว ลูกค้ายังสบายใจได้ว่าจะได้รับบริการหลังการขายที่มีคุณภาพ เนื่องจากทางโชว์รูมมีศูนย์บริการที่มีมาตรฐานในระดับ Authorized Dealer อีกด้วย

แล้วพบกันที่ ซิกเนเจอร์ คาร์ส โรดโชว์ วันที่ 11 - 18 มิถุนายน 2556 ณ ห้างเซ็นทรัลพลาซ่า พระราม 9 ชั้น 1 ลานแฟชั่นโซน

บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส และ เยอรมัน ออโต้ ร่วมจัดกิจกรรมขอบคุณลูกค้าคนสำคัญ



 บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส และ เยอรมัน ออโต้ ร่วมจัดกิจกรรมขอบคุณลูกค้าคนสำคัญชมภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์รอบพิเศษ Fast and Furious 6 พร้อมถ่ายภาพคู่รถบีเอ็มดับเบิลยู M Series

บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย โดย คุณคริสเตียน วิดมานน์ กรรมการผู้จัดการ (ด้านขวา) ร่วมกับ เยอรมัน ออโต้ ผู้จำหน่ายบีเอ็มดับเบิลยูอย่างเป็นทางการ โดย คุณปิยวิทย์ เขมะรังสรรค์ ประธานบริษัท จัดกิจกรรมชมภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์รอบพิเศษ Fast and Furious 6 ณ โรงภาพยนตร์เอสเอฟ เวิลด์ ซีเนม่า เซ็นทรัล เวิลด์ ให้แก่ลูกค้าที่ได้มอบความไว้วางใจและให้การสนับสนุนที่ดีตลอดมา ภายในงานยังเปิดให้ลูกค้าได้ถ่ายภาพกับรถบีเอ็มดับเบิลยู M Series ซึ่งเป็นรุ่นที่ใช้ในการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องดังกล่าว พร้อมรับของที่ระลึกมากมาย รถบีเอ็มดับเบิลยู M Series มีชื่อเสียงในความเป็นที่สุดแห่งยนตรกรรม ที่นอกจากจะมอบความตื่นเต้นเร้าใจ ในการขับขี่ ยังมาพร้อมนวัตกรรมแห่งเทคโนโลยีมอเตอร์สปอร์ตที่ใช้ในรถรุ่นต่างๆ ของบีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 3, 5, 6 รวมทั้งบีเอ็มดับเบิลยู X5 และ X6

วันพุธที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2556

'โตโยต้า' เรียกแก้ไขเบรกพริอุส-เลกซัส2.4แสนคัน



โตโยต้า มอเตอร์ เตรียมเรียกรถยนต์รุ่นพริอุส และเลกซัส ไฮบริด จำนวนกว่า 2.42 แสนคันทั่วโลกมาตรวจสอบ หลังพบปัญหาเกี่ยวกับระบบเบรก แต่ยังไม่พบทำให้เกิดอุบัติเหตุแต่อย่างใด ขณะที่ในไทยมีเข้าข่ายเรียกกลับมาแก้ไขเพียง 2 คัน

ทั้งนี้ตามรายงานมีผู้ขับขี่รถยนต์ทั้งสองรุ่น ซึ่งผลิตระหว่างเดือนมีนาคม – ตุลาคม 2009 แจ้งต้องใช้แรงเหยียบแป้นเบรกมากกว่ารถทั่วไป โดยโฆษกของโตโยต้าระบุว่า สาเหตุเกิดจากวัสดุบกพร่องเกิดรอยรั่ว จนทำให้ก๊าซไนโตรเจนเข้าไปในน้ำมันเบรก และส่งผลต่อประสิทธิภาพของระบบเบรก
      
        อย่างไรก็ตามไม่มีรายงานว่าเกิดอุบัติเหตุจากปัญหาดังกล่าว แต่บริษัทฯ ได้รับการร้องเรียนจากลูกค้า 90 รายทั่วโลก
      
        โดยโตโยต้าได้เรียกรถทั้ง 2 รุ่นนี้ ในญี่ปุ่นจำนวน 117,000 คัน อเมริกาเหนือ 91,000 คัน ยุโรปจำนวน 30,000 และอีก 3,000 คันจากเอเชีย-แปซิฟิก
      
        เกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้น “ASTV ผู้จัดการมอเตอริ่ง” ได้ตรวจสอบไปยังบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด และได้รับการเปิดเผยว่า ในไทยเบื้องต้นจากการตรวจสอบรถที่อยู่ในเกณฑ์ ต้องเรียกกลับมาแก้ไขเพียง 2 รายเท่านั้น ซึ่งเป็นรถยนต์นำเข้าจากต่างประเทศ และกำลังมีการดำเนินการอยู่ ส่วนรถปีอื่นๆ ที่ได้มีการประกอบในไทยไม่มีปัญหาแต่อย่างใด
      
        อนึ่งโตโยต้าได้มีการเรียกรถกลับมาแก้ไข จำนวนหลายล้านคันทั่วโลก ในช่วงระยะเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเมื่อปลายปีที่ผ่านมาโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ได้มีการเรียกรถยนต์โตโยต้า คัมรี และโคโรลล่า อัลติส เข้ารับการแก้ไข พร้อมกับชี้แจงคำว่า Recall นั้นหมายถึงการแจ้งลูกค้าให้นำรถยนต์เข้ามาตรวจสอบ แก้ไข หรือเปลี่ยนอะไหล่ (ขึ้นอยู่กับแต่ละกรณี) ที่ผู้แทนจำหน่ายโตโยต้า โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ ถือเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อคุณภาพผลิตภัณฑ์ อันเป็นมาตรฐานของบริษัทโตโยต้าในการเอาใจใส่ และรับผิดชอบต่อลูกค้า เพื่อให้เกิดความมั่นใจในการใช้รถยนต์ ดังนั้น คำว่า Recall มิได้หมายถึงการเรียกรถคืนแต่อย่างใด

สภาอุตฯ เตรียมปรับเป้ายอดผลิตรถยนต์ใหม่



คาดว่าจะทำให้ยอดการผลิตรถยนต์ เพิ่มขึ้นตามเป้าหมายกำลังการเติบโต ของยอดการผลิตที่ตั้งไว้ในปีนี้


นาย สุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธาน และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ ส.อ.ท.เปิดเผยว่า กรณีรัฐบาลมีมติอนุมัตินโยบายช่วย เหลือผู้ประสบภัยรถยนต์น้ำท่วม โดยกำหนดให้มีมาตรการรถยนต์ใหม่เพื่อทดแทนรถยนต์ที่ถูกน้ำท่วมขึ้น ด้วยวิธีการให้เงินช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัยรถยนต์น้ำท่วมเป็น จำนวนเท่ากับภาษีสรรพสามิตของรถยนต์ คือ 100,000 บาทนั้น คาดว่าจะทำให้ยอดการผลิตรถยนต์ เพิ่มขึ้นตามเป้าหมายกำลังการเติบโต ของยอดการผลิตที่ตั้งไว้ในปีนี้ คือ 3% หรือคิดเป็นตัวเลขที่ 2,550,000 คัน
อย่างไรก็ตาม ต้องรอดูปริมาณการส่งมอบรถยนต์คันแรก ในเดือนพฤษภาคม และมิถุนายน หากพบว่ามีจำนวนที่เพิ่มขึ้น ก็จะปรับเป้าการผลิตให้เพิ่มขึ้น ขณะนี้ประสานผู้ผลิตรถยนต์แต่ละค่าย ประเมินยอดการผลิตในอีก 6 เดือนข้างหน้า เพื่อดูว่าจะสามารถทำตามเป้าได้หรือไม่ ซึ่งในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา สามารถส่งมอบรถให้ลูกค้าแล้วกว่า400,000 คัน เป็นจำนวนรถคันแรกอยู่ที่ประมาณ 70% คิดเป็นตัวเลขประมาณ 300,000 คัน
รองประธาน ส.อ.ท.กล่าวด้วยว่า จากการที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง.มีมติปรับลดดอกเบี้ยลง 0.25% ถือว่าเป็นเรื่องดี เนื่องจากสามารถช่วยเหลือในเรื่องของการซื้อรถยนต์ของผู้บริโภค แบ่งเบาภาระในการชำระค่าผ่อนส่งได้ โดยเชื่อว่าจะไม่เกิดสัญญาณฟองสบู่ในภาคอุตสาหกรรมยานยนต์

อีซูซุนัดรวมพลแฟนดีแมคซ์ ท้าทายความเร็วใน "Isuzu Race Spirit" ณ เทพนคร มอเตอร์สปอร์ต คอมเพล็กซ์ เสาร์ที่ 29 มิถุนายนนี้



อีซูซุตอกย้ำความแรงของ มอเตอร์สปอร์ต เอาใจแฟนดีแมคซ์ จัดงาน "Isuzu Race Spirit ครั้งที่ 2" ระเบิดความมัน! รวมพลผู้ใช้รถปิกอัพ "อีซูซุดีแมคซ์" ทุกรุ่น! เตรียมจัดหนัก อัดแน่นทุกกิจกรรมแรงสุดขีด...จี๊ดสุดขั้วในแบบฉบับของอีซูซุ ที่แฟนตัวจริง...ห้ามพลาด! ณ สนามเทพนคร มอเตอร์สปอร์ต คอมเพล็คซ์ เสาร์ที่ 29 มิถุนายน ศกนี้ ตั้งแต่เวลา 4 โมงเย็นเป็นต้นไป 


คุณปนัดดา เจณณวาสิน รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด กล่าวว่า "อีซูซุได้เตรียมจัดกิจกรรมเอาใจแฟนๆ มอเตอร์สปอร์ต อีกครั้ง ด้วยงาน Isuzu Race Spirit ครั้งที่ 2 ณ สนามเทพนคร มอเตอร์สปอร์ต คอมเพล็คซ์ โดยครั้งนี้อีซูซุได้เน้นความสนุกตื่นเต้น เร้าใจในโซนกิจกรรมต่างๆ ทั้งนี้ยังได้เชิญคุณบอย - ขจรศักดิ์ ณ สงขลา นักแข่งรถชื่อดัง มาร่วมโชว์การดริ๊ฟท์ (Drift) พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้ใช้รถปิกอัพอีซูซุดีแมคซ์ได้สัมผัสประสบการณ์การแข่งรถ (Drag Racing) ด้วยตัวเอง นอกจากนี้ยังได้เพิ่มพื้นที่การประกวดแต่งรถปิกอัพอีซูซุในคอนเซ็ปสปอร์ตยก สูง และสตรีทเรซซิ่ง เพื่อเปิดโอกาสให้ลูกค้าที่ชื่นชอบการแต่งรถได้เข้าร่วมกิจกรรมได้อย่างเต็ม ที่ พร้อมพิสูจน์สุดยอดปิกอัพออล-นิว อีซูซุ ดีแมคซ์ ของ "ช่างเบิร์ด หลัก 5" กับรถปิกอัพสี่สูบดีเซลที่สามารถทำความเร็วในการแข่ง Dragได้เร็วที่สุดในโลก กับสถิติเพียง 8 วินาทีกว่า โดยยังได้รับการสนับสนุนจากผลิตภัณฑ์ชั้นนำคุณภาพร่วมออกบูธเพื่อสร้างสีสัน ในงานครั้งนี้อย่างคับคั่ง ซึ่งอีซูซุขอเรียนเชิญผู้สนใจเข้าร่วมงาน Isuzu Race Spirit ได้ในวันเสาร์ที่ 29 มิถุนายน ศกนี้ และพิเศษสำหรับผู้ใช้รถอีซูซุทุกรุ่น เข้าร่วมกิจกรรมฟรีอีกด้วย"
กิจกรรม "Isuzu Race Spirit" ครั้งที่ 2 จะจัดขึ้น ณ สนามเทพนคร มอเตอร์สปอร์ต คอมเพล็คซ์ ในวันเสาร์ที่ 29 มิถุนายนนี้... เปิดให้ลงทะเบียนความสนุกได้ตั้งแต่เวลา 16.00 น. และพิเศษ! สำหรับผู้ใช้รถอีซูซุทุกรุ่น สามารถร่วมกิจกรรมทุกรูปแบบฟรีตลอดงาน (ภายในเวลา 18.00 น. เท่านั้น) หรือติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนลูกค้าสัมพันธ์ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด โทร. 02-966-2121 หรือ www.allnewisuzud-max.com, www.isuzu-tis.com และ www.facebook.com /allnewisuzudmax
ส่วนประชาสัมพันธ์ สำนักงานองค์กรสัมพันธ์
บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด
โทร. 02-966-2127-9

ปอร์เช่ นิว เคย์แมน 2013 (Porsche New Cayman 2013) ที่ คาร์แมกซ์ พระราม 9



โชว์รูมรถหรู คาร์แมกซ์ พระราม 9 นำเข้ารถปอร์เช่ นิว เคย์แมน 2013 (Porsche New Cayman 2013) ซึ่งได้ปรับรูปโฉมใหม่หมดทั้งคัน พัฒนาให้ขับสนุกมากขึ้นแต่ประหยัดน้ำมันกว่าเดิม ลูกค้าสามารถยลโฉม Cayman ใหม่นี้ พร้อมออกรถได้ทันทีที่โชว์รูม คาร์แมกซ์ พระราม 9 


รถปอร์เช่ เคย์แมน 2013 (Porsche Cayman 2013) รุ่นนี้ได้รับการพัฒนาขึ้นมาใหม่หมด ลดน้ำหนักตัวรถลงประมาณ 30 กก. จากรุ่นก่อนแต่เพิ่มความแข็งแรงมากขึ้น ขณะที่เครื่องยนต์ 6 สูบเรียงนอนได้ถูกพัฒนาให้มีกำลังมากขึ้น ที่มาพร้อมระบบออโต้สตาร์ทและสต๊อปฟังค์ชั่น ( Auto Start/ Stop Function) เพื่อช่วยให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้นราว 15 % ด้วยมิติตัวรถความยาว 4,380 มิลลิเมตร กว้าง 1,801 มิลลิเมตร และสูง 1,294 มิลลิเมตร ส่งผลให้โฉมใหม่มีมิติตัวถังที่เตี้ยกว่ารุ่นเดิม 10 มิลลิเมตร และเพิ่มความยาวฐานล้อมีความยาวมากขึ้น 60 มิลลิเมตร ส่งผลให้การควบคุมรถมีประสิทธิภาพมากขึ้น
รุ่นเคย์แมนเอส (Cayman S) สีขาว มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 6 สูบเรียงนอน ขนาด 3,436 ซีซี ให้กำลังสูงถึง 325 แรงม้าที่ 7,400 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 370 นิวตันเมตรที่ 4,500-5,800 รอบต่อนาที ระบบเกียรอัตโนมัติ Porsche Doppelkupplungsgetriebe (PDK) 7 จังหวะทำให้รถมีกำลังเครื่องยนต์ที่เร็วขึ้นส่งผลให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 4.7 วินาทีและประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 12.5กิโลเมตร/ลิตร ความเร็วสูงสุด 281 กิโลเมตร/ชั่วโมง ราคาขายที่ 8,650,000 บาท
รุ่นเคย์แมน (Cayman) สีดำ มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 6 สูบเรียงนอน ขนาด 2,706 ซีซี ให้กำลังสูงถึง 275 แรงม้าที่ 7,400 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 290 นิวตันเมตรที่ 4,500-6,500 รอบต่อนาที ระบบเกียรอัตโนมัติ Porsche Doppelkupplungsgetriebe (PDK) 7 จังหวะทำให้รถมีกำลังเครื่องยนต์ที่เร็วขึ้นส่งผลให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 5.6 วินาทีและประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 12.99กิโลเมตร/ลิตร ความเร็วสูงสุด 264 กิโลเมตร/ชั่วโมง ราคาขายที่ 7,600,000 บาท
รีบจับจองเป็นเจ้าของได้แล้ว ที่โชว์รูม คาร์แมกซ์ พระราม 9 ถ.พระราม 9 ซอย 20 ( ตรงข้าม ตึก KPN ) หรือ โทร. 02-319-8455 www.carmaxrama9.com http://www.facebook.com/Carmaxpraram9

บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส และ เยอรมัน ออโต้ ร่วมจัดกิจกรรมขอบคุณลูกค้าคนสำคัญ




บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส และ เยอรมัน ออโต้ ร่วมจัดกิจกรรมขอบคุณลูกค้าคนสำคัญชมภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์รอบพิเศษ Fast and Furious 6 พร้อมถ่ายภาพคู่รถบีเอ็มดับเบิลยู M Series 


บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย โดย คุณคริสเตียน วิดมานน์ กรรมการผู้จัดการ (ด้านขวา) ร่วมกับ เยอรมัน ออโต้ ผู้จำหน่ายบีเอ็มดับเบิลยูอย่างเป็นทางการ โดย คุณปิยวิทย์ เขมะรังสรรค์ ประธานบริษัท จัดกิจกรรมชมภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์รอบพิเศษ Fast and Furious 6 ณ โรงภาพยนตร์เอสเอฟ เวิลด์ ซีเนม่า เซ็นทรัล เวิลด์ ให้แก่ลูกค้าที่ได้มอบความไว้วางใจและให้การสนับสนุนที่ดีตลอดมา ภายในงานยังเปิดให้ลูกค้าได้ถ่ายภาพกับรถบีเอ็มดับเบิลยู M Series ซึ่งเป็นรุ่นที่ใช้ในการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องดังกล่าว พร้อมรับของที่ระลึกมากมาย รถบีเอ็มดับเบิลยู M Series มีชื่อเสียงในความเป็นที่สุดแห่งยนตรกรรม ที่นอกจากจะมอบความตื่นเต้นเร้าใจ ในการขับขี่ ยังมาพร้อมนวัตกรรมแห่งเทคโนโลยีมอเตอร์สปอร์ตที่ใช้ในรถรุ่นต่างๆ ของบีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 3, 5, 6 รวมทั้งบีเอ็มดับเบิลยู X5 และ X6
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม:
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย
1-800-269-269
www.bmw.co.th
สื่อมวลชนติดต่อ
บริษัท คาร์ล บายร์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์
สุธาทิพย์ บุญแสง (0-2627-3501 ต่อ 102)
แมทธิว โมราน ( 0-2627-3501 ต่อ 224)
sboonsaeng@carlbyoir.com, mjamesmoran@carlbyoir.com

จีเอ็ม เพาเวอร์เทรน ประเทศไทย ฉลองความสำเร็จการผลิตครบ 100,000 เครื่องยนต์



ขุมพลังดูราแม็กซ์ ดีเซล เทอร์โบ ผลิตครบ 100,000 เครื่องยนต์นับตั้งแต่เริ่มเดินสายการผลิตเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2554
เครื่องยนต์ทั้งหมดเป็นขุมพลังขับเคลื่อนของเชฟโรเลต โคโลราโด และเทรลเบลเซอร์ ที่ผลิตโดยศูนย์การผลิตยานยนต์จีเอ็ม ประเทศไทย


เตรียมเพิ่มบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนเพื่อเพิ่มชิ้นส่วนภายในประเทศในปี 2557
จีเอ็ม เพาเวอร์เทรน ประเทศไทย ซึ่งเป็นศูนย์การผลิตเครื่องยนต์ดีเซลของจีเอ็ม แห่งแรกในไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมกับเป็นศูนย์การผลิตเครื่องยนต์ดูราแม็กซ์ ดีเซล เทอร์โบขนาด 4 สูบแห่งแรกในโลก ฉลองความสำเร็จการผลิตขุมพลังดูราแม็กซ์ครบ 100,000 เครื่องยนต์ นับตั้งแต่เริ่มเดินสายการผลิตอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2554
ศูนย์การผลิตจีเอ็ม เพาเวอร์เทรน ประเทศไทย ทำการผลิตเครื่องยนต์ดูราแม็กซ์ 2.5 ลิตรจำนวน 44,660 เครื่องและดูราแม็กซ์ 2.8 ลิตรจำนวน 55,340 เครื่อง โดยเครื่องยนต์ทั้งหมดถูกใช้เป็นขุมพลังขับเคลื่อนของรถที่ผลิตโดยศูนย์การ ผลิตยานยนต์จีเอ็ม ประเทศไทย
เวลานี้ จีเอ็ม เพาเวอร์เทรน ประเทศไทยทำงานร่วมกับบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วน (ซัพพลายเออร์) 96 บริษัท โดยเตรียมขยายเพิ่มอีก 18 บริษัทในปี 2557 ปัจจุบันเครื่องยนต์ดูราแม็กซ์ใช้ชิ้นส่วนในประเทศ 45 เปอร์เซ็นต์
มร. มาร์ติน แอพเฟล ประธานกรรมการ ประจำประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัดและบริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวกับพนักงานระหว่างพิธีฉลองความสำเร็จในครั้งนี้ว่า "วันนี้เราไม่ได้เพียงฉลองความสำเร็จการผลิตเครื่องยนต์ดูราแม็กซ์ ดีเซลเทอร์โบครบ 100,000 เครื่องยนต์เท่านั้น แต่เป็นการฉลองการทำงานร่วมกันเป็นทีมอันยอดเยี่ยมของพนักงานทุกคน ที่ทำให้เกิดความสำเร็จขึ้นมาได้"
"เรากำลังรักษาแรงขับเคลื่อนเพื่อการเติบโตของเราต่อไป ด้วยการทำงานร่วมกันเป็นทีมและสร้างคุณภาพสูงสุดในทุกสิ่งที่เราลงมือทำ เราเป็นหนึ่งในศูนย์การผลิตที่ทันสมัยที่สุดในโลกของจีเอ็ม เรามีเครื่องมือ การฝึกอบรม และกระบวนการจัดการที่รักษาคุณภาพสูงสุดพร้อมกับเดินหน้าสร้างการเติบโต อย่างต่อเนื่อง" มร.แอพเฟล กล่าว
จีเอ็ม เพาเวอร์เทรน ถือเป็นหนึ่งในศูนย์การผลิตเครื่องยนต์ที่ทันสมัยที่สุดในโลกของจีเอ็ม มีมูลค่า 200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ราว 5,900 ล้านบาท) มีพนักงานทั้งหมด 590 คน เดินสายการผลิตเครื่องยนต์ดูราแม็กซ์ ดีเซล เทอร์โบ บล็อก 2.5 ลิตรและ 2.8 ลิตร โดยในเดือนกรกฎาคม 2555 จีเอ็ม เพาเวอร์เทรนที่มีกำลังการผลิต 120,000 เครื่องยนต์ต่อปีนั้นได้ขยายการลงทุนสายการผลิตเสื้อสูบเพิ่มอีก 36 ล้านเหรียญฯ (ราว 1พันล้านบาท) ซึ่งทำการผลิตเสื้อสูบที่มีความแม่นยำสูงสำหรับเครื่องยนต์ดูราแม็กซ์ นับเป็นอีกหนึ่งก้าวย่างสำคัญของการขยายศูนย์การผลิตในจังหวัดระยองซึ่งแล้ว เสร็จก่อนหน้าแผนการที่วางไว้เกือบหนึ่งปี
มร. เดวิด คลาร์คสัน รองประธานฝ่ายเพาเวอร์เทรน ประจำประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "ผมมีความภาคภูมิใจในพนักงานของเราทุกคนอย่างมาก เราเดินทางมาถึงความสำเร็จในครั้งนี้ภายในระยะเวลาไม่ถึงสองปี นับตั้งแต่เริ่มเดินสายการผลิตอย่างเป็นทางการ ซึ่งไม่เพียงเกิดจากการทำงานหนักและความมุ่งมั่นทุ่มเทของพนักงานทุกคนเท่า นั้น แต่รวมถึงความนิยมในรถที่ใช้เครื่องยนต์ดูราแม็กซ์ อย่างเชฟโรเลต โคโลราโด และเทรลเบลเซอร์ ที่เพิ่มมากขึ้นด้วย ผมขอขอบคุณลูกค้าทุกคนที่ให้ความไว้วางใจเลือกใช้รถเชฟโรเลต ที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดูราแม็กซ์ ของเรา"
เครื่องยนต์ดูราแม็กซ์ทั้งขนาด 2.5 ลิตรและ 2.8 ลิตร ใช้เป็นหัวใจขับเคลื่อนของเชฟโรเลต โคโลราโดและเทรลเบลเซอร์ รถดีเซลที่มีความล้ำสมัยที่สุดในตลาดเวลานี้ มาพร้อมเทคโนโลยีเทอร์โบแปรผัน ฝาสูบอลูมิเนียม ตัวหล่อเย็นน้ำมันเครื่องในตัว หัวฉีดเชื้อเพลิงคอมมอนเรลแรงดันสูงสำหรับการเพิ่มพละกำลัง สมรรถนะ ความประหยัดและความทนทาน นอกจากนี้ยังมีตัวหล่อเย็น EGR ที่รองรับมาตรฐานไอเสียยูโร 5 รวมถึงเพลาถ่วงสมดุลและอ่างน้ำมันหล่อลื่นแบบแผ่นอัดขึ้นรูปที่อยู่ใน ตำแหน่งต่ำกว่า ช่วยลดเสียงรบกวน แรงสั่นสะเทือนและความสะท้าน (Noise, Vibration and Harshness) ลงได้ในขณะเครื่องยนต์ทำงาน
ในเดือนมิถุนายน 2555 จีเอ็ม เพาเวอร์เทรน ได้รับรองมาตรฐาน ISO140001 จากความมุ่งมั่นในการลดของเสียเพื่อความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยระบบการ จัดการสิ่งแวดล้อม (Environmental Management System - EMS) มุ่งบริหารจัดการและลดผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมซึ่งเกิดจากการผลิตลงด้วย
จีเอ็ม เพาเวอร์เทรน ประเทศไทย ถือเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์เพื่อการเติบโตของจีเอ็ม ประเทศไทยในภูมิภาคนี้