About

ขับเคลื่อนโดย Blogger.

วันพุธที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2556

จีเอ็ม เพาเวอร์เทรน ประเทศไทย ฉลองความสำเร็จการผลิตครบ 100,000 เครื่องยนต์



ขุมพลังดูราแม็กซ์ ดีเซล เทอร์โบ ผลิตครบ 100,000 เครื่องยนต์นับตั้งแต่เริ่มเดินสายการผลิตเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2554
เครื่องยนต์ทั้งหมดเป็นขุมพลังขับเคลื่อนของเชฟโรเลต โคโลราโด และเทรลเบลเซอร์ ที่ผลิตโดยศูนย์การผลิตยานยนต์จีเอ็ม ประเทศไทย


เตรียมเพิ่มบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนเพื่อเพิ่มชิ้นส่วนภายในประเทศในปี 2557
จีเอ็ม เพาเวอร์เทรน ประเทศไทย ซึ่งเป็นศูนย์การผลิตเครื่องยนต์ดีเซลของจีเอ็ม แห่งแรกในไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมกับเป็นศูนย์การผลิตเครื่องยนต์ดูราแม็กซ์ ดีเซล เทอร์โบขนาด 4 สูบแห่งแรกในโลก ฉลองความสำเร็จการผลิตขุมพลังดูราแม็กซ์ครบ 100,000 เครื่องยนต์ นับตั้งแต่เริ่มเดินสายการผลิตอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2554
ศูนย์การผลิตจีเอ็ม เพาเวอร์เทรน ประเทศไทย ทำการผลิตเครื่องยนต์ดูราแม็กซ์ 2.5 ลิตรจำนวน 44,660 เครื่องและดูราแม็กซ์ 2.8 ลิตรจำนวน 55,340 เครื่อง โดยเครื่องยนต์ทั้งหมดถูกใช้เป็นขุมพลังขับเคลื่อนของรถที่ผลิตโดยศูนย์การ ผลิตยานยนต์จีเอ็ม ประเทศไทย
เวลานี้ จีเอ็ม เพาเวอร์เทรน ประเทศไทยทำงานร่วมกับบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วน (ซัพพลายเออร์) 96 บริษัท โดยเตรียมขยายเพิ่มอีก 18 บริษัทในปี 2557 ปัจจุบันเครื่องยนต์ดูราแม็กซ์ใช้ชิ้นส่วนในประเทศ 45 เปอร์เซ็นต์
มร. มาร์ติน แอพเฟล ประธานกรรมการ ประจำประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัดและบริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวกับพนักงานระหว่างพิธีฉลองความสำเร็จในครั้งนี้ว่า "วันนี้เราไม่ได้เพียงฉลองความสำเร็จการผลิตเครื่องยนต์ดูราแม็กซ์ ดีเซลเทอร์โบครบ 100,000 เครื่องยนต์เท่านั้น แต่เป็นการฉลองการทำงานร่วมกันเป็นทีมอันยอดเยี่ยมของพนักงานทุกคน ที่ทำให้เกิดความสำเร็จขึ้นมาได้"
"เรากำลังรักษาแรงขับเคลื่อนเพื่อการเติบโตของเราต่อไป ด้วยการทำงานร่วมกันเป็นทีมและสร้างคุณภาพสูงสุดในทุกสิ่งที่เราลงมือทำ เราเป็นหนึ่งในศูนย์การผลิตที่ทันสมัยที่สุดในโลกของจีเอ็ม เรามีเครื่องมือ การฝึกอบรม และกระบวนการจัดการที่รักษาคุณภาพสูงสุดพร้อมกับเดินหน้าสร้างการเติบโต อย่างต่อเนื่อง" มร.แอพเฟล กล่าว
จีเอ็ม เพาเวอร์เทรน ถือเป็นหนึ่งในศูนย์การผลิตเครื่องยนต์ที่ทันสมัยที่สุดในโลกของจีเอ็ม มีมูลค่า 200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ราว 5,900 ล้านบาท) มีพนักงานทั้งหมด 590 คน เดินสายการผลิตเครื่องยนต์ดูราแม็กซ์ ดีเซล เทอร์โบ บล็อก 2.5 ลิตรและ 2.8 ลิตร โดยในเดือนกรกฎาคม 2555 จีเอ็ม เพาเวอร์เทรนที่มีกำลังการผลิต 120,000 เครื่องยนต์ต่อปีนั้นได้ขยายการลงทุนสายการผลิตเสื้อสูบเพิ่มอีก 36 ล้านเหรียญฯ (ราว 1พันล้านบาท) ซึ่งทำการผลิตเสื้อสูบที่มีความแม่นยำสูงสำหรับเครื่องยนต์ดูราแม็กซ์ นับเป็นอีกหนึ่งก้าวย่างสำคัญของการขยายศูนย์การผลิตในจังหวัดระยองซึ่งแล้ว เสร็จก่อนหน้าแผนการที่วางไว้เกือบหนึ่งปี
มร. เดวิด คลาร์คสัน รองประธานฝ่ายเพาเวอร์เทรน ประจำประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "ผมมีความภาคภูมิใจในพนักงานของเราทุกคนอย่างมาก เราเดินทางมาถึงความสำเร็จในครั้งนี้ภายในระยะเวลาไม่ถึงสองปี นับตั้งแต่เริ่มเดินสายการผลิตอย่างเป็นทางการ ซึ่งไม่เพียงเกิดจากการทำงานหนักและความมุ่งมั่นทุ่มเทของพนักงานทุกคนเท่า นั้น แต่รวมถึงความนิยมในรถที่ใช้เครื่องยนต์ดูราแม็กซ์ อย่างเชฟโรเลต โคโลราโด และเทรลเบลเซอร์ ที่เพิ่มมากขึ้นด้วย ผมขอขอบคุณลูกค้าทุกคนที่ให้ความไว้วางใจเลือกใช้รถเชฟโรเลต ที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดูราแม็กซ์ ของเรา"
เครื่องยนต์ดูราแม็กซ์ทั้งขนาด 2.5 ลิตรและ 2.8 ลิตร ใช้เป็นหัวใจขับเคลื่อนของเชฟโรเลต โคโลราโดและเทรลเบลเซอร์ รถดีเซลที่มีความล้ำสมัยที่สุดในตลาดเวลานี้ มาพร้อมเทคโนโลยีเทอร์โบแปรผัน ฝาสูบอลูมิเนียม ตัวหล่อเย็นน้ำมันเครื่องในตัว หัวฉีดเชื้อเพลิงคอมมอนเรลแรงดันสูงสำหรับการเพิ่มพละกำลัง สมรรถนะ ความประหยัดและความทนทาน นอกจากนี้ยังมีตัวหล่อเย็น EGR ที่รองรับมาตรฐานไอเสียยูโร 5 รวมถึงเพลาถ่วงสมดุลและอ่างน้ำมันหล่อลื่นแบบแผ่นอัดขึ้นรูปที่อยู่ใน ตำแหน่งต่ำกว่า ช่วยลดเสียงรบกวน แรงสั่นสะเทือนและความสะท้าน (Noise, Vibration and Harshness) ลงได้ในขณะเครื่องยนต์ทำงาน
ในเดือนมิถุนายน 2555 จีเอ็ม เพาเวอร์เทรน ได้รับรองมาตรฐาน ISO140001 จากความมุ่งมั่นในการลดของเสียเพื่อความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยระบบการ จัดการสิ่งแวดล้อม (Environmental Management System - EMS) มุ่งบริหารจัดการและลดผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมซึ่งเกิดจากการผลิตลงด้วย
จีเอ็ม เพาเวอร์เทรน ประเทศไทย ถือเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์เพื่อการเติบโตของจีเอ็ม ประเทศไทยในภูมิภาคนี้

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น